วันเสาร์, พฤษภาคม 10, 2025
หน้าแรกHighlight‘อิทธิพร'ยันเรียก‘สว.’แจงคดีฮั้วตามก.ม. ย้ำ‘กกต.’ตัดสินผิดไม่ได้-เป็นหน้าที่ศาล
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘อิทธิพร’ยันเรียก‘สว.’แจงคดีฮั้วตามก.ม. ย้ำ‘กกต.’ตัดสินผิดไม่ได้-เป็นหน้าที่ศาล

“อิทธิพร” ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยันเรียก สว.แจงคดีฮั้ว สว.เป็นไปตามกฎหมาย ชี้ กกต.วินิจฉัยความผิดไม่ได้ เป็นหน้าที่ของศาล

วันที่ 10 พ.ค.68 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่มีหมายเชิญสมาชิกวุฒิสภามาชี้แจงเรื่องการฮั้วเลือก สว.ว่า เป็นเอกสารแจ้งข้อกล่าวหา เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต.ที่ กกต. ตั้งขึ้นเป็นพิเศษคือ คณะที่ 26 ที่มี ร.ต.อ.ชนินทร์  น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. เป็นประธาน และขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) มาช่วย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเมื่อตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้นแล้วพบว่าสามารถนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาได้    จึงได้มีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาด้วยการทำหนังสือนัดหมายกำหนดเวลาให้บุคคล 53 คนตามข่าวมารับทราบข้อกล่าวหาและให้โอกาสชี้แจง  แสดงหลักฐานของตนเอง 

การแจ้งให้มาชี้แจงสามารถทำได้ 3 ช่องทางคือ ยื่นหนังสือทางไปรษณีย์ คณะกรรมการฯ ไปยื่นด้วยตนเอง และติดหมายเรียกไว้หน้าบ้าน กรณีไม่พบเจ้าตัว ซึ่ง สว.ที่ได้รับหมายเรียกต้องเข้าไปชี้แจงกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะที่ 26  ที่สำนักงาน  กกต.โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนมีเวลา 90 วันแต่สามารถขยายได้ หากเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายบุคคล และเมื่อผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาชี้แจงแล้วก็จะมีการประมวลพิจารณาวินิจฉัย และเสนอความเห็นไปยังเลขาธิการ กกต. ซึ่งกรอบเวลาของเลขาธิการ กกต.มีเวลาพิจารณา 60 วัน   

จากนั้นจึงจะเข้าสู่ที่ประชุม กกต.โดยผ่านการพิจารณาของอนุกรรมการวินิจฉัยพิจารณากรั่นกรอง เพื่อเสนอความเห็นให้ กกต.ตัดสิน และถ้าที่ประชุม กกต.เห็นว่าไม่จำเป็นต้องสอบเพิ่มเติม เนื่องจากข้อมูลหลักฐานไม่เพียงพอก็ยุติเรื่อง แต่หากพบว่ามีความผิดจริงก็ส่งศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง และเข้าสู่กระบวนการของศาลต่อไป ซึ่งถ้าศาลรับคำร้องไว้ก็จะส่งผลให้สมาชิกวุฒิสภาต้องยุติปฎิบัติหน้าที่  

เมื่อถามถึงกรอบระยะเวลาการพิจารณาคำร้องที่ต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 1 ปีนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่ากรอบ 1 ปีเป็นการกำหนดเอาไว้เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่กระทบกับการสืบสวนไต่สวน ซึ่งสามารถยืดหยุ่นและขยายเวลาได้ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานก็ไม่อยากล่าช้า เพราะถ้าช้าต้องมีเหตุผล  

ทั้งนี้หากมี สว.ต้องออกจากหน้าที่จะต้องมีการเลือก  สว.ใหม่ขึ้นมาทดแทนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับจำนวน ต้องรอดูความชัดเจนอีกที  ส่วนจะมีการเรียก สว.มาชี้แจงเพิ่มจากที่เรียกไปรอบแรก 53 คนหรือไม่นั้น เมื่อคำร้องเข้าสู่กระบวนการก็ต้องให้แต่ละส่วนมีอำนาจหน้าที่อย่างแท้จริง จะมีอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่คณะกรรมการฯชุดที่ 26 เป็นผู้พิจารณา  การจะให้ข่าวออกไปตอนนี้คงไม่เหมาะสม  

เมื่อถามย้ำว่าในหมายเรียกระบุชัดเจนว่า สว. มีความผิดชัดเจนเรื่องฮั้ว  นายอิทธิพร  กล่าวว่าไม่ใช่มีความผิด  แต่มีพฤติการณ์ที่อาจจะเป็นการฝ่าฝืน  จะวินิจฉัยว่าผิดเลยไม่ได้ เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลที่มี ทำให้เราเชื่อ แต่การตัดสินว่าใครผิดหรือไม่ผิดเป็นหน้าที่ศาล  

ขณะที่การวินิจฉัยของอนุกรรมการฯ ก่อนเสนอ กกต.ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่สามารถแสดงความเห็นได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือมีจุดไหนที่ต้องการข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและใช้ดุลพินิจได้อย่างชัดเจนที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเกิดความลักลั่น เพราะข้อเท็จจริงยังไม่ชัด 

โดยเหตุผลที่ DSI เข้ามาแล้วดำเนินการได้เร็วกว่าที่ กกต.ทำเอง เพราะมีบางเรื่องที่พยานหลักฐานไม่มากเท่ากับที่ DSI มี จึงต้องการให้ DSI เข้ามาช่วยดู และเมื่อเชิญเข้ามาบวกกับพยานหลักฐานที่เขามีอยู่แล้ว ก็ทำให้ไม่ช้า ซึ่งคำร้องของ สว. มีทั้งหมดประมาณ 577 คำร้อง ทำเสร็จไปแล้ว 300 กว่าเรื่อง.  

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img