กรมชลประทาน เร่งแจงเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำเพิ่มยันน้ำไม่ล้นตลิ่ง
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่า ปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกชุกในระยะนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาแต่อย่างใดด้านการเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาจากฝนที่ตกในพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะลุ่มน้ำยม และลุ่มน้ำน่าน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์มากขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้จะได้ผันน้ำบางส่วนเข้าทุ่งบางระกำ และจุดเก็บน้ำอื่นๆ แล้วก็ตาม
อีกทั้ง 4 เขื่อนหลัก(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ได้ลดการระบายน้ำลง เพราะต้องการเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้งหน้าที่กำลังจะมาถึง
แต่ฝนตกชุกในแถบลุ่มน้ำปิง ในเขตจังหวัดกำแพงเพชร และพิจิตร ซึ่งอยู่ด้านท้ายเขื่อน มีน้ำ Side Flow (น้ำนอกเหนือการควบคุม) ค่อนข้างมาก และน้ำทั้งหมดจะไหลมารวมที่แม่น้ำเจ้าพระยาจังหวัดนครสวรรค์ #จำเป็นที่จะต้องระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น
ในส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่า น้ำที่ว่านี้จะระบายเข้าทุ่งลุ่มต่ำภาคกลางได้หรือไม่ นั้น ขอชี้แจงว่ายังไม่สามารถระบายน้ำเข้าทุ่งได้ เพราะยังมีการปลูกข้าวเกือบเต็มพื้นที่ และบางพื้นที่เพิ่งจะเริ่มเพาะปลูก เนื่องจากปีนี้ทำนาล่าช้ากว่ากำหนดจากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น”
กรมชลประทาน ขอยืนยันว่าจะบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มเติม ที่อาจจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันต่อไป
ให้ทุกฝ่ายเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ชลประทานบริการประชาชนได้ตลอดเวลา