คนไทยยังนิยมกินรสจัด หวาน มัน เค็ม ถูกปากแต่สะเทือน “ไต หัวใจ หลอดเลือด” เสี่ยงป่วย NCDs ร้ายแรงทวีคูณ 5 เท่า
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส.เปิดเผยว่า จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมการกินของคนไทย โดย ThaiHealthWatch จับตาทิศทางสุขภาพคนไทย ปี 2563 พบว่า คนไทยนิยมอาหารรสจัด เช่น ยำ ต้มยำ ไข่ดอง ปูดอง และนิยมรับประทานอาหารรสหวาน เช่น ขนมไทย ขนมเค้ก
ซึ่งถูกปากคนไทยแต่มีผลกระทบต่อหลอดเลือด หัวใจ และไต เนื่องจากการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด อาหารที่มีไขมันสูง รสหวานจัด จะมีปริมาณโซเดียม ไขมัน และน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ และเสี่ยงต่อโรค Noncommunicable diseases (NCDs) ในอนาคต ทั้งอ้วนลงพุง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไต หัวใจ เส้นเลือดอุดตัน และมะเร็ง ที่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของคนไทย ราว 400,000คนต่อปี คิดเป็นร้อยละ 76 ของการเสียชีวิตทั้งหมด และร้อยละ 50 เสียชีวิตก่อนวัยอันควร
ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหาร ที่ใช้ความชอบ ความอยาก รสชาติ มากกว่าคุณภาพของอาหาร ที่น่าสนใจคือคนที่ป่วยด้วยโรค NCDs ในสถานการณ์โควิด-19 จะมีความเสี่ยงของความรุนแรงต่อโรคมากกว่าคนทั่วไปถึง 5 เท่า
นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. กล่าวว่า คนไทยควรตระหนักถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สสส. ร่วมกับเครือข่ายลดการบริโภคเค็ม เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน เครือข่ายลดการบริโภคไขมัน รวบรวมองค์ความรู้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และนักกำหนดอาหาร จัดทำชุดสื่อการเรียนรู้ ‘Goodbye NCDs’ เพื่อรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนถึงการรับประทานอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม ที่เกินพอดีส่งผลกระทบต่อร่างกาย ซึ่ง แบรนด์ Carnival ร่วมออกแบบการ์ตูน หัวใจ ไต และหลอดเลือด เป็นตัวแทนอวัยวะภายในร่างกายที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการรับประทานอาหารหวาน มัน เค็มสะสม
“ชุดสื่อการเรียนรู้ ‘Goodbye NCDs’ ช่วยให้คนไทยเห็นภาพและเข้าใจง่าย ๆ ถึงความเสี่ยงต่อโรค NCDs ด้วยการสแกน QR Code เพื่อเลือกเมนูหวาน มัน เค็ม จำลองให้เห็นถึงระบบภายในร่างกายที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ในรูปแบบ 3D อนิเมซีน พร้อมให้คำแนะนำสูตรกลมกล่อมห่างไกลโรค 6:6:1 คือ น้ำตาล 6 ช้อนชา/วัน ไขมัน 6 ช้อนชา/วัน และเกลือ 1 ช้อนชา/วัน นอกจากนี้ควรระวังการปรุงเพิ่ม เลี่ยงการรับประทานของว่าง ขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่มเติมความหวานที่เพิ่มเติมจากอาหารมื้อหลัก” นางเบญจมาภรณ์ กล่าว