“สว.คำนูณ สิทธิสมาน” ประกาศตัวหนุน “ชวน หลีกภัย” นั่งเก้าอี้ “ปธ.กก.สมานฉันท์” เพื่อเดินหน้าก้าวแรกของการหาทางออกด้วยการประนีประนอมโดยเร็ว แจกแจงคุณสมบัติส่วนตัวละเอียดยิบ โดยเฉพาะประเด็นแม้จะไม่เห็นด้วยกับ รธน.60 แต่ก็ยินดีปฏิบัติตาม
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยรายละเอียดถึงกรณี “ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ควรจะเป็นผู้ใด ?” ว่า…คุณสมบัติผู้เหมาะสมที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ ตลอดทุกทุกยุคทุกสมัยทุกรูปแบบที่เสนอกันมา คือผู้อาวุโสที่มีประสบการณ์ในการบริหารราชการแผ่นดิน เคยมีประสบการณ์ตรง และมีความเข้าใจในปัญหาวิกฤตที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีบารมี เป็นที่ยอมรับและเคารพนับถือจากทุกฝ่ายมากที่สุดเท่าที่จะหาได้ ส่วนใหญ่จะมองไปที่อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตประธานวุฒิสภา
ณ นาทีนี้ผมมองไม่เห็นใครจะเหมาะสมไปกว่าท่านผู้นี้…ท่านชวน หลีกภัย !
ท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร 2 สมัย อดีตประธานรัฐสภา 2 สมัย เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาตลอดตั้งแต่ปี 2512 เป็นผู้อาวุโสและมีบารมีทางการเมืองและทางสังคมในระดับที่ไม่ด้อยไปกว่าผู้ใด เป็นผู้เข้าใจในการเมืองระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทั้งทางทฤษฎีและการปฏิบัติ เห็นทั้งดีและข้อด้อยของนักการเมือง ไม่เคยยอมรับระบอบรัฐประหาร เข้าใจคนยากคนจน เข้าใจหัวอกของคนที่ถูกกล่าวหาอย่างเหมารวมด้วยความไม่เป็นธรรม เพราะท่านเองเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ในยุค 6 ตุลาคม 2519 มาแล้ว
และที่สำคัญ ท่านประกาศเปิดเผยว่าไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ 2560 แต่ท่านก็ยินดีปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ 2560
การดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาและประธานกรรมการสถาบันพระปกเกล้าด้วย จะยิ่งช่วยให้ท่านใช้กลไกของรัฐสภาและสถาบันพระปกเกล้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
แน่นอน นี่เป็นภารกิจที่หนักอึ้ง แต่ผมเชื่อว่าการที่ท่านจำเพาะมาเป็นประธานรัฐสภาในขณะนี้ ไม่ใช่เหตุบังเอิญ หากแต่เป็น ธรรมะจัดสรร ให้ท่านได้ทำหน้าที่สำคัญสูงสุดในชีวิตทางการเมืองของท่าน
ถามว่าทุกฝ่ายจะยอมรับท่านหรือ ก็ขอตอบด้วยการถามกลับว่าความจริงตรงหน้า ณ วันนี้จะมีใครเหมาะสมไปกว่าท่านและยอมรับจะทำงานที่ยากยิ่งนี้หรือไม่
ในฐานะสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่ง และในฐานะคนไทย ขอสนับสนุนท่านชวน หลีกภัย ให้รับตำแหน่งประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ หรือชื่ออื่นใดตามแต่จะตั้ง และดำเนินการสรรหาคณะกรรมการ เพื่อเดินหน้าก้าวแรกของการหาทางออกด้วยการประนีประนอมโดยเร็ว