วันพุธ, พฤษภาคม 15, 2024
หน้าแรกHighlightแฉสารพัดกลุ่มหนุน'ม็อบ3นิ้ว' หวังทำลายล้าง'คนสำคัญในสถาบัน'
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แฉสารพัดกลุ่มหนุน’ม็อบ3นิ้ว’ หวังทำลายล้าง’คนสำคัญในสถาบัน’

“ผอ.ซูเปอร์โพล” แฉผู้อยู่เบื้องหลังหนุน “ม็อบ 3 นิ้ว” คือ นักการเมือง-นายทุน-นักเคลื่อนไหว-โซเชียลมีเดียต่างชาติ-เอ็นจีโอ-รัฐบาลต่างชาติ” ที่ต้องการโค่นโครงสร้างอำนาจของประเทศไทย โดยใช้ “ข้อความการเมือง” เป็นอาวุธทำลายล้างด้วยภาษา ตัดทอนพลังความจงรักภักดี เป้าหมายคือทำลายล้างบุคคลสำคัญในสถาบัน แนะคนไทยต้องรู้เท่าทัน

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.ซูเปอร์โพล ได้นำเสนอบทความเรื่อง “ยุทธศาสตร์ที่ 2” ระบุว่า…จากการวิเคราะห์ข้อมูลและเฝ้าติดตามการก่อตัวของขบวนการที่อยู่เบื้องหลังหนุนม็อบ 3 นิ้ว ด้วยเครื่องมือการประเมินขั้นสุทธิ (Net Assessment) พบว่า ขบวนการที่อยู่เบื้องหลังม็อบ 3 นิ้ว ได้แก่ นักการเมือง นักธุรกิจนายทุน นักวิชาการ นักเคลื่อนไหวองค์กรต่างชาติ กลุ่มโซเชียลมีเดียต่างชาติ กลุ่ม NGO และรัฐบาลต่างชาติที่ไม่ใช่มหามิตรประเทศไทย และแกนนำม็อบ ที่มีทัศนคติและการปฏิบัติการไปในทิศทางเดียวกันคือการโค่น (Overturn) หรือสั่นคลอนโครงสร้างอำนาจของประเทศไทยด้วยการปฏิรูปแบบปฏิวัติ (Revolutionary Reform) ตามกระแสมาร์กซิสต์ที่โค่นอำนาจเชิงโครงสร้างด้วยชนชั้นกรรมกร

โดยขบวนการเบื้องหลังหนุนม็อบ 3 นิ้วเหล่านี้ เห็นพ้องต้องกันให้ใช้ “ข้อความการเมือง” เป็น อาวุธทำลายล้างด้วยภาษา (Weaponization of Language) ตัดทอนพลังความจงรักภักดี สร้างความเกลียดชังรัฐบาล กองทัพ และเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือ การทำลายล้างบุคคลสำคัญในสถาบัน

ทางออกคือ การรู้เท่าทันขบวนการและนำความจริงออกมาบอกคนทั้งประเทศ เพื่อให้ “คนไทย” ทุกคนเกิดภูมิคุ้มกันสำนึกรู้คุณแผ่นดินและปกป้องสถาบันหลักของชาติให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นและการสนับสนุนยุทธศาสตร์ที่ 2 ของประเทศมหาอำนาจที่เป็นมหามิตรของประเทศไทย

ขบวนการเบื้องหลังหนุนม็อบ 3 นิ้ว กำลังปฏิบัติการบนพื้นฐานความคิดและปฏิบัติการที่มุ่งสู่ การคว่ำ (Upend) หรือ ล้มกระดานโครงสร้างอำนาจของประเทศไทย สอดคล้องกับแนวทางของพวกมาร์กซิสต์ แบบดั้งเดิมที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมแบบปฏิวัติโดยทัพหน้าของชนชั้นกรรมกร แต่ขบวนการเบื้องหลังหนุนม็อบ 3 นิ้วเหล่านี้ถูกครอบงำด้วยแนวคิดและการปฏิบัติการร่วมสมัยจากอุดมการณ์เชิงอำนาจบางส่วน (Some aspects) ของฐานอำนาจล่าอาณานิคมชาติตะวันตก ดังจะเห็นได้ว่า อิทธิพลของมาร์กซิสต์แผ่กระจายไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกและนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงบานปลาย ทำคนในชาติต่าง ๆ แตกแยก

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีปฏิบัติการระหว่างประเทศภายใต้การบริหาร “ดุลอำนาจของโลก” (Balance of Global Power) โดยประธานาธิบดีประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ที่สามารถสร้างภาพเบื้องหน้าเป็นที่นิยมไปทั่วโลก แต่เบื้องหลังคณะบริหารอำนาจของประธานาธิบดีท่านนั้น กลับใช้ภาษาเป็นอาวุธ (Weaponization of Political Words) ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ยิงขีปนาวุธภาษาและภาพในระบบออนไลน์ เข้าถึงมือถือของประชาชนและเด็กเยาวชนแต่ละคนในกลุ่มประเทศเป้าหมาย เช่น ตูนิเซีย กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการส่งกองกำลังเข้าไปปฏิบัติการทางทหารในประเทศอื่น ๆ เช่น ยูเครน และกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก จนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายคือ ทำคนในชาติเหล่านั้นแตกแยก ทำคนในชาตินั้นอ่อนแอ ผู้นำเป้าหมายถูกโค่น ถูกสังหาร



ผลที่ตามมาคือ กลุ่มประเทศเหล่านั้นเจอวิกฤตที่แย่หนักลงไปอีก ยังไม่ปรากฏเลยว่า กลุ่มประเทศที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการ ปลุกปั่นม็อบ พาคนลงถนน เหล่านั้น จะเจริญมั่นคงแข็งแกร่ง ตรงกันข้ามมีแต่จะวิกฤตตกต่ำลงไป และถูกขบวนการต่างชาติเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์ทางทรัพยากรและอื่น ๆ จากประเทศเหล่านั้น โดยมีตัวอย่างล่าสุดที่ เกาะฮ่องกง ถึงแม้ว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีล่าสุดนี้จะแตกต่างไปจากคนก่อนเพราะยังต้องการใช้ยุทธศาสตร์ที่ 2 ไม่ใช่แบบเดิมที่เคยทำ แต่เมื่อเกิดการปฏิบัติการจริงกลับกลายเป็นว่าอยู่นอกเหนือการควบคุม (Out of Control) สถานการณ์ในเกาะฮ่องกง จึงเป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ความเป็นหนึ่งเดียวของคนในเกาะฮ่องกงจะกลับคืนมาเหมือนเดิมที่ช่วยกันสร้างเกาะฮ่องกงมาได้หรือไม่

สำหรับประเทศไทย จากการทำประเมินขั้นสุทธิ (Net Assessment) พบภาพของขบวนการเบื้องหลังหนุนม็อบ 3 นิ้วในทิศทางเดียวกันคือ ใช้ภาษาและภาพเป็นอาวุธ (Weaponization of Language and Picture) เช่น #เยาวชนปลดแอก #ประชาชนปลดแอก #จะสู้หรืออยู่อย่างทาส เป็นต้น และพาคนลงถนน ทำคนในชาติแตกแยก ช่วงชิงกลุ่มพลังเงียบด้วยการล้างสมอง หล่อรูปทัศนคติของเด็กและเยาวชนให้อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับโครงสร้างอำนาจเดิมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการตาม ศาลหลักเมือง หรือจุดประวัติศาสตร์ เพื่อทำให้ประเทศไทยไปสู่การแบ่งแยกดินแดนและประชาชน ซึ่งอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ประชาชนและต่อสถาบันหลักของชาติอย่างร้ายแรง ด้วยการสนับสนุนขององค์กรต่างชาติที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของประเทศมหาอำนาจมหามิตรของประเทศไทยจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าขั้วอำนาจภายในประเทศมหาอำนาจชาติตะวันตกเหล่านั้นจะเห็นด้วยกับแนวทางข้างต้นทั้งหมด เพราะอีกขั้วหนึ่งของประเทศมหาอำนาจนั้นไม่ต้องการให้ขบวนการเบื้องหลังหนุนม็อบ 3 นิ้ว ทำแบบมาร์กซิสต์นิยมและไม่เห็นด้วยกับการใช้ภาษาและภาพเป็นอาวุธผ่านโซเชียลมีเดียไปสู่การปฏิรูปแบบปฏิวัติ (Revolutionary Reform) โดยขั้วอำนาจภายในประเทศอำนาจชาติตะวันตกขั้วนี้ต้องการให้ใช้ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือการเปลี่ยนแปลงประเทศต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากภายใน (Within Peaceful Strategy) ด้วยสันติวิธี ไม่ใช่มุ่งแต่จะพาคนลงถนน ทำคนในชาติแตกแยก โดยขั้วอำนาจนี้ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแต่ละประเทศแต่ต้องไม่ตัดทอน (Cut Down) พลังประเทศนั้น ๆ และไม่ตัดทอนพลังประเทศมหาอำนาจชาติตะวันตกนั้นด้วย ดังนั้น ความหวังยังพอจะมีอยู่ถ้าประเทศมหาอำนาจที่เป็นมหามิตรกับประเทศไทยมาช้านาน เลือกใช้ยุทธศาสตร์ที่ 2 โดยฝ่ายผู้มีอำนาจของประเทศไทยต้องเจรจากับประเทศมหาอำนาจที่เป็นประเทศมหามิตรประเทศนั้นเพื่อนำไปสู่การรักษาความเป็นมหามิตรให้ยั่งยืนสืบไป

จึงขอให้คนไทยทุกคนรู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเบื้องหลังหนุนม็อบ 3 นิ้ว ทาง ซูเปอร์โพล ทำได้แค่นี้คือ ทำการประเมินขั้นสุทธิ (Net Assessment) หาข้อมูลให้รู้ความจริงและความเท็จที่ถูกปั่นยอดกระแสผ่านโซเชียลมีเดีย แต่การลงมือทำหรือปฏิบัติการเป็นเรื่องของคนไทยทุกคนทั้งผู้ที่ถือครองอำนาจรัฐ (State Power) และอำนาจที่ไม่ใช่อำนาจรัฐ (Non-State Power) ที่รวมเป็นอำนาจแห่งชาติ (National Power) ว่าเดินตามเกมยุทธศาสตร์ที่ 1 ของขบวนการเบื้องหลังหนุนม็อบ 3 นิ้ว หรือจะเปลี่ยนเกมมาทำตามยุทธศาสตร์ที่ 2 แต่ขอให้การตัดสินใจของทุกแหล่งอำนาจอยู่บนพื้นฐานของหลักการ รู้ รัก สามัคคี เพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติและประชาชนคนไทยทุกคนเอาไว้สำหรับปัจจุบันและอนาคตที่ดี



- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img