วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightวัดพระแก้ว-พระบรมมหาราชวัง-สถาบัน คือหัวใจและความรักของราษฎร
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

วัดพระแก้ว-พระบรมมหาราชวัง-สถาบัน คือหัวใจและความรักของราษฎร

ซูเปอร์โพลชี้ “วัดพระแก้ว-พระบรมมหาราชวัง-สถาบันกษัตริย์” คือหัวใจและความรักของราษฎร ต้องช่วยกันปกป้องรักษา และเห็นว่าผู้บุกรุกสถานที่เหล่านี้คือผู้ทำลายสมบัติชาติ

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “หัวใจ ราษฎร” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,746 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 5-13 พ.ย.63 ที่ผ่านมา

เมื่อถามถึงวัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง และสถาบันพระมหากษัตริย์ คือหัวใจและความรักของราษฎร พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.7 ระบุ วัดพระแก้วคือหัวใจและความรักของราษฎร ร้อยละ 97.2 ระบุ พระบรมมหาราชวังคือหัวใจและความรักของราษฎร ร้อยละ 97.0 ระบุสถาบันพระมหากษัตริย์คือหัวใจและความรักของราษฎร นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.6 ระบุ คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ปกป้องรักษา มรดกสมบัติชาติที่สืบทอดมาหลายร้อยปี และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.4 ระบุ คนที่พยายามบุกรุกสถานที่หัวใจและความรักของ ราษฎร คือ ผู้หวังทำลายสมบัติชาติที่รักษาสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษของคนไทย

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น กลุ่มเยาวชนและกลุ่มที่ไม่ใช่เยาวชน พบว่า ทั้งสองกลุ่มส่วนใหญ่คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.5 ของกลุ่มเยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี และร้อยละ 98.2 ของกลุ่มที่ไม่ใช่เยาวชนอายุ 25 ปีขึ้นไประบุ วัดพระแก้ว คือ หัวใจและความรักของ ราษฎร นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.3 ของกลุ่มเยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี และร้อยละ 97.6 ของกลุ่มที่ไม่ใช่เยาวชนอายุ 25 ปีขึ้นไประบุ พระบรมมหาราชวัง คือ หัวใจและความรักของ ราษฎร ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.3 ของกลุ่มเยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี และร้อยละ 97.0 ของกลุ่มที่ไม่ใช่เยาวชนอายุ 25 ปีขึ้นไประบุ สถาบันพระมหากษัตริย์ คือ หัวใจและความรักของ ราษฎร

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.8 ของกลุ่มเยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี และร้อยละ 97.0 ของกลุ่มที่ไม่ใช่เยาวชนอายุ 25 ปีขึ้นไประบุ คนไทยทุกคน ต้องช่วยกัน ปกป้องรักษา มรดกสมบัติชาติที่สืบทอดมาหลายร้อยปี นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.3 ของกลุ่มเยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี และร้อยละ 91.8 ของกลุ่มที่ไม่ใช่เยาวชนอายุ 25 ปีขึ้นไประบุ คนที่พยายามบุกรุกสถานที่หัวใจและความรักของ ราษฎร คือ ผู้หวังทำลายสมบัติชาติที่รักษาสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษของคนไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น กลุ่มคนที่จะเลือกพรรคก้าวไกล และ กลุ่มคนเลือกพรรคอื่น ๆ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.9 ของกลุ่มที่จะเลือกพรรคก้าวไกล และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.6 ของกลุ่มคนที่จะเลือกพรรคอื่น ๆ ระบุ วัดพระแก้ว คือ หัวใจและความรักของ ราษฎร นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.0 ของกลุ่มที่จะเลือกพรรคก้าวไกล และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.1 ของกลุ่มคนที่จะเลือกพรรคอื่น ๆ ระบุ พระบรมมหาราชวัง คือ หัวใจและความรักของ ราษฎร และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.1 ของกลุ่มที่จะเลือกพรรคก้าวไกล และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.6 ของกลุ่มคนที่จะเลือกพรรคอื่น ๆ ระบุ พระมหากษัตริย์ คือ หัวใจและความรักของ ราษฎร

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.0 ของกลุ่มที่จะเลือกพรรคก้าวไกล และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.5 ของกลุ่มคนที่จะเลือกพรรคอื่น ๆ ระบุ คนไทยทุกคน ต้องช่วยกัน ปกป้องรักษา มรดกสมบัติชาติที่สืบทอดมาหลายร้อยปี และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.2 ของกลุ่มที่จะเลือกพรรคก้าวไกล และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.5 ของกลุ่มคนที่จะเลือกพรรคอื่น ๆ ระบุ คนที่พยายามบุกรุกสถานที่หัวใจและความรักของ ราษฎร คือ ผู้หวังทำลายสมบัติชาติที่รักษาสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษของคนไทย

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า อย่ามองราษฎรทุกคนแบบเหมารวมหรือยกเข่ง (Stereotype) และอย่าฮึกเหิมเกินความสมดุล เพราะในจังหวะนี้อารมณ์ของสาธารณชนเปราะบางยิ่งที่ต้องการการบริหารจัดการอารมณ์ของประชาชนอย่างระมัดระวัง เพราะจะเห็นได้ว่าเยาวชนส่วนใหญ่และแม้แต่กลุ่มคนที่จะเลือกพรรคก้าวไกลส่วนใหญ่ก็ยังถือว่า วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวังและสถาบันกษัตริย์คือหัวใจและความรักของราษฎร ดังนั้น ถ้าฝ่ายแกนนำม็อบกระทำการกระทบกระเทือนหัวใจและความรักของราษฎร ในขณะเดียวกัน ฝ่ายอำนาจรัฐ (State Power) ที่อาจจะปฏิบัติการบางอย่างที่เกินความสมดุล

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ทางออกมีอย่างน้อยสามประการได้แก่ ประการแรกคือ ใครอยากม็อบ ก็ม็อบไปเป็นสีสันและพลังแห่งประชาธิปไตยถ้าอยู่ในกรอบของกฎหมายและปลอดภัยไม่รุนแรงบานปลาย เช่น ม็อบต่อต้านผลประโยชน์ทับซ้อน ม็อบต่อต้านโกงเงินบริจาคให้เหยื่อโควิด-19 ม็อบปฏิรูปการศึกษา และม็อบเรียกร้องสิทธิตามกฎหมายให้กลุ่ม LGBTQ เป็นต้น ม็อบเหล่านี้จะเป็นม็อบมีพลังหนุนกระตุ้นให้เกิดสิ่งดี ๆ ในประเทศไม่ทำคนในชาติแตกแยก

ประการที่สองคือ จัดทำระบบฐานข้อมูลอย่างละเอียดเครือข่าย (Profiling) ของขบวนการต่าง ๆ ด้วยเครื่องมือขั้นสุทธิ (Net Assessment) ทุกจังหวัด ลงถึงระดับตำบล ชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเกาะติดการเคลื่อนไหวความต้องการและเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์จะช่วยป้องกันแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงของประเทศในเรื่องอื่น ๆ ได้อีกมาก

ประการที่สามคือ หันหน้าเข้าหารือปรึกษากันด้วย “สัมมาทิฏฐิ” หาทางออกให้กับประเทศร่วมกันด้วยสันติวิธี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่คุกคามผู้อื่น ไม่ใส่ร้ายหรือจัดทัวร์ลงถล่มผู้อื่นด้วยอคติ และความเห็นผิดไปจากความเป็นจริง หรือ ที่เรียกว่า “มิจฉาทิฏฐิ” อันจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายและเสี่ยงต่อการทำลายเผาบ้านของตนเอง สร้างความทุกข์ยากเดือดร้อนซ้ำเติมวิกฤตให้กับราษฎรสามัญชนทั่วไปทั้งประเทศ



- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

ว่าด้วยเรื่อง พัฒนา“พุทธมณฑล”

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img