“นายกฯลุงตู่” สั่งจนท.สอบสวนเหตุม็อบยิงกันหน้าตึก SCB หลังพบมีสื่อบันทึกภาพได้ จะได้พิสูจน์ว่าใครทำ ไม่ต้องโยนกันไปมา อัดซ้ำยิ่งชุมนุมนาน ยิ่งเสียหาย เศรษฐกิจพัง การจราจรติดขัด ใครได้ประโยชน์
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. เวลา 10.30 น. ที่อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมกลุ่มราษฏร ที่บริเวณด้านหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า เคยพูดหลายครั้งแล้วว่า หากเป็นการชุมนุมที่ถูกกฎหมาย ก็ห้ามอะไรไม่ได้ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม ต้องเคารพกฎหมายอย่าทำผิดกฎหมาย กฎหมายเขียนว่าอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น รัฐบาลมีหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน ไม่ว่าจะกี่พวกก็ตาม แต่ไม่ว่าจะพวกไหน ก็ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ใครทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน
“เหตุการณ์ยิงกันหลังการชุมนุมนั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร กำลังให้เจ้าหน้าที่สอบสวนติดตามอยู่ เพราะเห็นว่ามีภาพถ่าย ที่สื่อได้บันทึกไว้ จะได้พิสูจน์ได้ว่าใครทำ ไม่อย่างนั้นก็จะโยนกันไปโยนกันมา ว่าอีกพวกหนึ่งทำ หรือว่ารัฐบาลทำ ทั้งที่รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลให้ทุกคนปลอดภัย เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เข้าใจหรือไม่ ดังนั้นการชุมนุมจะต้องช่วยกัน เป็นการชุมนุมที่ปลอดภัย อย่าให้เกิดขึ้นอีก ถ้าคนไปร่วมชุมนุมแล้วไม่ปลอดภัย เขาก็ไม่ไป”พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
เมื่อถามถึงกรณีการลดความขัดแย้งควรจะแก้ไขและธรรมนูญให้เสร็จสิ้นโดยเร็วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการของรัฐสภา เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งประธานสภาฯดูแลอยู่แล้ว รัฐบาลจะไม่ก้าวล่วง เพราะเราเป็นฝ่ายบริหาร เราไม่มีส่วนร่วมตรงนั้น อย่าเอาปัญหานี้ไปใส่ปัญหานั้น เราเป็นฝ่ายบริหาร ตรงนั้นเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเราเพียงอำนวยความสะดวกให้มีการแก้ไขเท่านั้นก็จบแล้ว สั่งใครได้ที่ไหน
เมื่อถามอีกว่า นายกฯได้ประเมินหรือไม่ว่า การชุมนุมจะยืดเยื้อจนส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากฝากคนทั้งประเทศให้กังวลด้วย เพราะตนกังวลอยู่แล้ว ยิ่งชุมนุมนานไป ก็ยิ่งเสียหายมากขึ้น ยิ่งนานไปเศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนไม่ได้ ยิ่งนานไปการจราจรก็ติดขัดมากขึ้น ขอถามว่าได้ประโยชน์กับใคร เขาอาจจะได้ประโยชน์ของเขา แต่หาวิธีการอื่นไม่ได้หรือ ที่ดีกว่า ที่มันสงบ ไม่ให้เกิดอันตราย หรือไปล่วงละเมิด ตนว่าควรตรงนั้นมากกว่าสื่อช่วยกันพูด