สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากกานพลูเพื่อบรรเทาการอักเสบของแผลในช่องปาก พร้อมพัฒนาการผลิตสู่เชิงพาณิชย์
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ประสบผลสำเร็จวิจัยและพัฒนา “ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากกานพลูเพื่อบรรเทาการอักเสบของแผลในช่องปาก” หรือ TISTR Clovalence Gel (ทิสทร้า โคลวาเลนซ์ เจล) โดยใช้น้ำมันกานพลู (Syzygium aromaticum) เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งมีสารสำคัญคือ ยูจีนอล (Eugenol) ซึ่งผ่านการทดสอบความเป็นพิษและฤทธิ์ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) ในเซลล์ทดลองผลิตภัณฑ์ฯ อยู่ในรูปแบบเจล ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา อ่อนโยนต่อเยื่อบุในช่องปาก และมีคุณสมบัติยึดติดกับเยื่อเมือกได้ดีช่วยบรรเทาอาการอักเสบและปวดอย่างมีประสิทธิภาพ

ผลิตภัณฑ์ได้รับการทดสอบในสัตว์ทดลองเพื่อประเมินประสิทธิภาพในการลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดจากแผลในช่องปากโดยพบว่าไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายในการใช้ผลิตภัณฑ์ในระยะสั้น นอกจากนี้ยังผ่านการตรวจสอบคุณภาพในด้านเคมีกายภาพ จุลชีววิทยาและการทดสอบโลหะหนัก เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด วว.พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสู่เชิงพาณิชย์ให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“กานพลู” เป็นพืชตระกูลไม้ยืนต้นขนาดกลาง เป็นพืชสมุนไพรในกลุ่มเครื่องเทศที่มีการบันทึกการใช้ประโยชน์มาอย่างยาวนานโดยแถบเอเชียจะมีการนำกานพลูมาใช้เพื่อการรักษาโรค ส่วนชาวตะวันตกจะใช้กานพลูสำหรับการแต่งกลิ่นอาหารและทำเครื่องสำอางต่างๆ
ประเทศที่ส่งออกกานพลูเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ได้แก่ ประเทศมาดากัสกา อินโดนีเซีย และมาเลเซีย สำหรับในประเทศไทยพื้นที่ที่มีการปลูกมากอยู่ที่จังหวัดจันทบุรีและชุมพร จุดเด่นของ “ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากกานพลูเพื่อบรรเทาการอักเสบของแผลในช่องปาก”

ผลงานวิจัยและพัฒนาของ วว.
1) ผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยน้ำมันกานพลู ซึ่งมีสารสำคัญ “ยูจีนอล” ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยรักษาแผลและลดการอักเสบในช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2) ผ่านการทดสอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทั้งในเซลล์ทดลองและสัตว์ทดลอง และมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการอักเสบในช่องปากได้ดี
3) เนื้อเจลบางเบาและยึดติดเยื่อบุได้ดี อ่อนโยนต่อเยื่อบุในช่องปาก และสามารถยึดติดกับเยื่อเมือกได้ดี ช่วยให้ตัวยาสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพ
4) ปลอดภัยต่อการใช้ โดยผ่านการตรวจสอบคุณภาพในด้านเคมีกายภาพ จุลชีววิทยา และการทดสอบโลหะหนัก เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยต่อผู้ใช้
5) ส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาด ด้วยการพัฒนาที่มีมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์จึงมีศักยภาพในการแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
