วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightรัก“ดวงตา”ต้องหมั่นตรวจเช็คและดูแล ให้สุขภาพ“ตา”ดีอยู่เสมอ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

รัก“ดวงตา”ต้องหมั่นตรวจเช็คและดูแล ให้สุขภาพ“ตา”ดีอยู่เสมอ

ปัจจุบันคนไทยมีปัญหาสายตาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีตัวการร้ายทำลายสายตาอยู่รอบตัว ทั้งจากการทำงานและการเรียนที่ต้องจ้องหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน หรือการใช้ชีวิตประจำวันที่เกิดจากรังสียูวีของแสงแดดและดวงไฟ

นพ.นพวุฒิ ตรีพรชัยศักดิ์  จักษุแพทย์ ให้คำแนะนำว่า เนื่องในวันสายตาโลกปีนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 ตุลาคม 2564  จึงอยากให้เชิญชวนทุกคนให้ความสำคัญกับการหมั่นดูแลใส่ใจและปกป้องดวงตาของตนเองและครอบครัวให้มีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ พร้อมให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ควรหมั่นตรวจวัดสายตาหรือตรวจเช็คสุขภาพดวงตาเป็นประจำ

กลุ่มวัยทำงานและวัยเรียน ควรตรวจเช็คสุขภาพดวงตาและอัพเดทค่าสายตาเป็นประจำทุกปี เนื่องจากปัญหาสายตาของคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้สายตาจ้องหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีแสงสีฟ้าที่เป็นภัยต่อดวงตาอย่างต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเรียนออนไลน์ หากดวงตากระทบกับแสงสีฟ้านานเกินไป จะส่งผลเสียต่อเซลล์จุดรับภาพของดวงตา ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม โดยจะมีอาการปวดตาและภาพโฟกัสเบลอ

ดังนั้นควรใช้สายตาตามหลัก 20-20-20 นั่นคือใช้สายตา 20 นาที ควรพักสายตาโดยมองไประยะไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที ร่วมกับการปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม และสวมแว่นตาที่ประกอบเลนส์ป้องกันแสงสีฟ้า (Blue Cut) รวมทั้งเปลี่ยนอิริยาบถหรือเคลื่อนไหวบ่อยๆ เพื่อลดอาการปวดเมื่อยของร่างกาย

นอกจากนี้ การนั่งทำงานในห้องแอร์เป็นเวลานาน มีโอกาสเกิดภาวะตาแห้งจากฟิล์มน้ำตาระเหย ทำให้แสบตาและตาแดง โดยเฉพาะผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ แนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นที่ผิวตา กะพริบตา 15 ครั้งต่อนาที และสลับสวมแว่นสายตาขนาดใหญ่เพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง

Senior truck driver showing thumbs up while driving.

ส่วน กลุ่มผู้ที่ใช้สายตากลางแจ้งเป็นเวลานาน เช่น ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะ นักกีฬากลางแจ้ง หรืออาชีพที่ต้องทำงานกลางแดด หากต้องเผชิญกับแสงแดดที่มีรังสียูวีในปริมาณมากซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตา อาจทำให้เกิดโรคต้อเนื้อ กระจกตาอักเสบ ปวดตา รวมทั้งโรคต้อกระจกและจอตาเสื่อมได้

ดังนั้น เมื่อต้องออกไปเผชิญกับแสงแดด แนะนำให้สวมแว่นกันแดดเพื่อถนอมดวงตาจากแสงแดดจ้าและรังสียูวี ควรเลือกสวมแว่นกันแดดคุณภาพ เนื่องจากการสวมแว่นกันแดดจะทำให้รูม่านตาขยายขึ้นจากความเข้มของเลนส์ หากสวมแว่นที่ไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสียูวี จะยิ่งส่งผลเสียต่อดวงตามากขึ้น

Focused man in headphones using mobile phone while sitting on sofa at home

ขณะที่ กลุ่มคนชอบดูซีรีส์หรืออ่านหนังสือในเวลากลางคืน จนเป็นไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันที่อาจส่งผลทำให้การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยเฉพาะคนที่ชอบดูซีรีส์ในที่มืดหรือมีแสงสว่างน้อย นอกจากจะทำให้เกิดภาวะอาการตาล้าแล้ว ยังส่งผลกระทบอื่นๆ ร่วมด้วยได้ เช่น สารสื่อประสาทในระบบสมองไม่สมดุล ทำให้ร่างกายไม่กระปรี้กระเปร่า วิงเวียนศีรษะ สายตาพร่ามัว

สำหรับผู้ที่ชอบอ่านหนังสือเป็นประจำ หากอ่านหนังสือในระยะใกล้เกินไปหรือในที่แสงไม่เพียงพอเป็นเวลานาน สามารถเกิดอาการปวดตา ล้าตา และเห็นภาพซ้อนได้เช่นกัน ควรอ่านหนังสือให้มีระยะห่างจากดวงตาไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตรในที่แสงสว่างเพียงพอ และพักสายตาเป็นระยะ หรือการสวมแว่นมองใกล้ที่เป็นเลนส์ลดการล้าตา หากใครที่เริ่มมองเห็นภาพไม่ชัด แนะนำให้เข้ารับการตรวจวัดสายตา เลือกตัดเลนส์ที่เหมาะสม เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนขึ้นจะช่วยลดอาการล้าของดวงตาได้ อาทิ เลนส์ดูน่า อาย สปา เซ็น (DUNA Eye Spa Zen) สำหรับคนที่ต้องใช้สายตามองใกล้เป็นเวลานาน

beautiful fashion woman designer choice looking for best match market design sketch with fabric sample in manufacturing office studio. profession and job occupation concept.

ส่วน กลุ่มผู้ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม หรืออาชีพงานฝีมือที่ต้องใช้ความละเอียดสูง เป็นกลุ่มที่มีการใช้สายตามากและขาดการป้องกันในบางครั้ง โดยเฉพาะงานที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ทั้งจากลักษณะงานที่ทำหรือความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อม แนะนำให้สวมแว่นเซฟตี้เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด รวมถึงสิ่งแปลกปลอมหรือสารเคมีกระเด็นเข้าตา เพราะหากเกิดความรุนแรงกับดวงตาแล้วแม้จะรักษาหาย แต่ดวงตาก็อาจไม่กลับไปเป็นปกติสมบูรณ์ได้ดังเดิม ทั้งนี้ผู้ที่มีปัญหาสายตาก็ควรใช้แว่นสายตาที่ทำให้มองเห็นชัดเจนเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว เมื่ออายุมากขึ้น ขบวนการเพ่งมองก็จะลดลง ทำให้เกิดภาวะสายตายาวระยะใกล้ โรคต้อกระจก โรคต้อหิน หรือโรคจอตาเสื่อม ดังนั้นการตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำจะทำให้คงการมองเห็นอยู่ตลอดจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเครื่องมือการตรวจวัดสายตาอาจจำเป็นต้องใช้เครื่องวัดความดันตาร่วมด้วย หากตรวจพบอาการผิดปกติก็สามารถเข้าถึงการรักษาได้ทันที และยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียดวงตาในผู้สูงวัย รวมทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันสูงและไขมันสูง เป็นต้น

สำหรับการตรวจวัดสายตาและตรวจเช็คสุขภาพดวงตา ผู้เข้ารับบริการควรเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการตรวจวัดสายตาด้วย เช่น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ หรือผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์ จำเป็นต้องถอดคอนแทคเลนส์ก่อนรับการตรวจอย่างน้อย 20 นาทีโดยเปลี่ยนเป็นการสวมแว่นสายตาแทน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img