วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightเทคนิค‘ดีท๊อกซ์’ผิวสวยกระจ่างใสแบบง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เทคนิค‘ดีท๊อกซ์’ผิวสวยกระจ่างใสแบบง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน

‘ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง’ สำนวนนี้ยังคงใช้ได้จริงในทุกยุคทุกสมัย เพราะผู้หญิงกับความงามมันเป็นของคู่กันเสมอ การดูแลผิวพรรณให้สวยสุขภาพดีก็ถือเป็นพื้นฐานแรกที่สำคัญก่อนการแต่งแต้มเครื่องสำอางลงบนใบหน้า

ดังนั้นการทำความสะอาดผิวหน้าเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แนะ “เทคนิคการดีท็อกซ์ผิวสวยกระจ่างใสแบบง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน” กับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ‘เฟเชียล คลีนเซอร์’ (Facial Cleanser), ‘เพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอซ’ (Purifying Face Wash), ‘แอสทริงเจนท์ คลีนซิ่ง วอเตอร์’ (Astringent Cleansing Water), ‘ดีท็อกซิฟายอิ้ง เคลย์ มาส์ก’ (Detoxifying Clay Mask) และ ‘โอ๊ตมีล เฟซ สครับ’ (Oatmeal Face Scrub)

แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม กล่าวถึงเทคนิคการดีท็อกซ์ผิวสวยกระจ่างใสแบบง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้านว่า “การล้างหน้าถือเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่ควรเอาใจใส่และไม่ควรละเลย เพราะไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงสุขภาพและความแข็งแรงของผิวหน้าอีกด้วย หากละเลยขั้นตอนนี้ไปอาจทำให้เกิดปัญหาผิวบนใบหน้าตามมาได้ การล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม อาจเป็นการทำร้ายผิวหน้าโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาผิวต่างๆ เช่น การอุดตันของรูขุมขน สิว ริ้วรอย ผิวหนังอักเสบ เป็นต้น

ก่อนการล้างหน้าควรทำความสะอาดมือก่อน เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางออกให้หมด เพื่อป้องกันการอุดตันและระคายเคืองผิว จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้อง ไม่ควรใช้น้ำอุ่นจัดหรือน้ำร้อนล้างหน้า เพราะน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปจะชะล้างไขมันตามธรรมชาติที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวเสียสมดุล ก่อให้เกิดผิวแห้งลอก ผิวบาง หรือแสบร้อนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีผิวแห้ง แล้วตามด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า โดยนวดวนไปตามแนวรูขุมขน ประมาณ 15-20 วินาที เพื่อให้น้ำและสารทำความสะอาดชะล้างไขมัน คราบสกปรก และคราบเครื่องสำอางที่หลงเหลือให้หลุดออกแล้วค่อยล้างน้ำเปล่าเป็นขั้นตอนสุดท้าย

เนื่องจากแต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดผิวหน้า ควรเลือกชนิดที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง

·ผิวแห้ง แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ทำความสะอาดที่ไม่ทิ้งความรู้สึกแห้งตึง เพื่อป้องกันผิวแห้งมากจนผิวแตกหรือลอก อาจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

·ผิวมัน แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ทำให้หน้าแห้งตึงจนเสียสมดุล เพราะจะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตความมันออกมาเพิ่มเติม ทำให้หน้ามันกว่าเดิม สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีคุณสมบัติในการควบคุมควมมัน (Oil control) ได้

·ผิวผสม จะมีลักษณะของผิวมันและผิวแห้งผสมกัน โดยผิวที่มีความมันมักอยู่บริเวณหน้าผาก, จมูก, และคาง (หรือที่เรียกว่า ทีโซน) ในขณะที่บริเวณ แก้ม, ลำคอ, และรอบดวงตา (หรือที่เรียกว่า ยูโซน) จะมีสภาพผิวแห้งกว่า ซึ่งคนที่มีผิวผสมอาจจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสำหรับคนผิวแห้งและผิวมัน

·ผิวแพ้ง่าย เกิดขึ้นได้กับผิวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีความอ่อนโยน และควรระวังสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอมและสีสังเคราะห์ หรือส่วนผสมอื่นที่ก่อให้เกิดอาการคัน ระคายเคือง ผื่นแดง

หลังการล้างหน้า ไม่ควรปล่อยให้ใบหน้าที่เปียกแห้งไปเอง เพราะหยดน้ำที่เกาะบนผิวจะระเหยไปพร้อมกับดึงความชุ่มชื้นในชั้นผิวออกไปด้วย ทำให้ผิวแห้งกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรใช้ผ้าเช็ดหน้านุ่มๆ ซับเบา ๆ ให้ทั่วหน้าหลังการล้างหน้า จากนั้นใช้โทนเนอร์เช็ดผิวหลังการล้างหน้า เพื่อปรับสภาพผิวและช่วยกระชับรูขุมขน และปิดท้ายด้วยการทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า

หากรู้สึกว่าผิวหน้ายังมีความหมองคล้ำ ไม่สดใส สีผิวไม่สม่ำเสมอ ก็สามารถใช้วิธีดีท็อกซ์ผิวมาเป็นตัวช่วยได้อีกทาง  การดีท็อกซ์ผิวเป็นการทำความสะอาดผิวแบบล้ำลึก ช่วยขจัดสิ่งสกปรกตกค้างหรือสะสมอยู่ตามรูขุมขน อาทิ ฝุ่นควัน คราบเครื่องสำอางต่างๆ การดีท๊อกซ์ผิวจริงๆ แล้วสามารถทำเองได้ที่บ้าน เพื่อผิวกระจ่างใส มีชีวิตชีวา

·มาส์กโคลน ช่วยทำความสะอาดและดูดซับสิ่งสกปรกตกค้างตามรูขุมขน ลดการเกิดสิว โดยทามาส์กโคลนทิ้งไว้บนผิว ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด

·สครับผิว เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ควรสครับผิวสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หากผิวบอบบางแพ้ง่ายแนะนำให้สครับผิวเดือนละ 1 ครั้ง

·ดื่มน้ำสะอาดมากๆ นอกจากจะช่วยนำพาสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายแล้ว ยังช่วยขับถ่ายสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการออกมาในรูปแบบของเหงื่อและปัสสาวะ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการการดีท็อกซ์อาจผสมน้ำมะนาว 3-4 หยดในน้ำอุ่นดื่มได้

·งดอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน ขนมกรุบกรอบ แฮมเบอร์เกอร์ มันฝรั่งทอด โดยเปลี่ยนมาทานผักใบเขียว และผลไม้สดต่างๆ แทน

·ออกกำลังกาย นอกจากจะกระตุ้นการไหลเวียนของระบบเลือดและกระตุ้นการขับของเสียออกมาทางเหงื่อแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวใหม่ได้เร็วขึ้นด้วย

·นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ระหว่างที่เรานอนหลับ ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) มากที่สุดช่วง 5 ทุ่ม – ตี 2 เพื่อทำการฟื้นฟู ซ่อมแซมร่างกายส่วนต่างๆ รวมถึงช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น”

ผิวหน้าของเราประกอบด้วยระบบเลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนอยู่ชั้นใต้ผิว ซึ่งเป็นการนำสาอาหารที่มีประโยชน์ไปเลี้ยงเซลล์ผิวและส่วนต่างๆ บนใบหน้า หากการไหลเวียนของระบบเลือดและน้ำเหลืองเกิดการติดขัด ผิวหน้าของเราจะแสดงออกมาในรูปแบบของปัญหาผิวต่างๆ เช่น ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส หรือสิว เป็นต้น การใช้เทคนิคการนวดเพื่อกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง (Lymphatic Drainage Massage) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองให้ดีขึ้น ทำให้ผิวสดใส แข็งแรง แลดูสุขภาพดี เปรียบเสมือนการทำดีท็อกซ์ผิวหน้าแบบง่ายๆ อีกวิธีหนึ่งซึ่งสามารถทำได้เองที่บ้าน

………………………….

ข้อมูลจากผลิตภัณฑ์ ‘ธัญ’ (THANN)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img