PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจและสุขภาพผิวโดยตรง โดยฝุ่น PM 2.5 จะไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น กับชั้นฟิล์มไขมันเคลือบผิว ที่ทำหน้าเสมือนเกราะปกป้องผิวให้เกิดการระคายเคือง อักเสบ อุดตัน นำมาซึ่งปัญหาผิว
พญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะนำว่า เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 นั้นมีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่ารูขุมขนคนเราถึง 20 เท่า จึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่รูขุมขนได้ง่าย และส่งผลกระทบกับผิวหนังโดยตรงขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น และระยะเวลาการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5
โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะเฉียบพลัน ก่อให้เกิดอาการอักเสบ ระคายเคืองของผิว ทำให้ผิวเสียสมดุลความชุ่มชื้น และระยะเรื้อรัง เกิดจากการสัมผัสฝุ่น PM 2.5 เป็นระยะเวลานาน โดยฝุ่น PM 2.5 จะไปกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระรบกวนการทำงานของเซลล์ผิว ทำให้ผิวเสื่อมเร็วกว่าปกติ ทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย กระตุ้นให้ผิวผลิตเม็ดสีสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ
สำหรับเคล็ดลับในการป้องกันและการดูแลผิวนั้น ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ให้มากที่สุดหรือสัมผัสให้น้อยที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิต้านทานของผิวหนังน้อยหรือผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอยู่แล้ว จะยิ่งต้องดูแลและป้องกันตัวเองให้มากเป็นพิเศษ
เมื่อกลับถึงบ้าน ควรรีบอาบน้ำชำระล้างผิวให้สะอาด ควรฟื้นฟูสภาพผิวด้วยผลิตภัณฑ์ดีท็อกซ์ผิวสัปดาห์ละครั้ง โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแด้นท์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี ประกอบด้วย จะช่วยเสริมให้สุขภาพผิวแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ควรสครับผิวเพื่อกระตุ้นกระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพสัปดาห์ละครั้ง แนะนำให้เลือกแบบที่เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ การเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยมอยเจอร์ไรซิ่งครีม และเสริมเกราะป้องกันให้กับผิว ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นฟิล์มบางๆ เคลือบผิวกันไม่ฝุ่นสัมผัสกับผิวได้โดยตรง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทิ้งความมันส่วนเกิน ไม่อุดตันรูขุมขน และมีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ รวมถึงควรทำให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานต่อมลภาวะ เพราะเมื่อร่างกายเราอ่อนแอ เวลาที่ได้รับเชื้อโรคหรือฝุ่นเข้ามาก็จะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย นอกจากนี้การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งผัก ผลไม้ รวมถึงงดการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยสามารถปรับเปลี่ยนมาออกกำลังในร่มแทน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และควรดื่มน้ำสะอาดในระหว่างวันให้มากๆ
ขณะที่เหล่าเซเลบริตี้เผยเทคนิคการดูแลผิวพรรณให้สุขภาพดีอยู่เสมอ เริ่มจากสาวนักกิจกรรม ปาวา นาคาศัย เผยว่า ช่วงนี้ฝุ่น PM 2.5 ค่อนข้างเยอะ มลพิษทางอากาศก็เยอะ ทำให้เราต้องหันกลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น ช่วงนี้เวลาที่จะออกไปไหนก็ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอด ส่วนการดูแลผิวพรรณก็ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องการปกป้องผิวจากแสงแดด เพราะเราค่อนข้างจะกังวลเรื่องกระ ฝ้า ดังนั้นครีมกันแดดประเภทกันน้ำกันเหงื่อประเภทที่เนื้อบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเรา และระหว่างสัปดาห์เราก็จะดีท็อกซ์ผิวหน้าด้วยมาส์กที่มีส่วนผสมของโคลนธรรมชาติ นอกจากจะช่วยทำความสะอาดผิวและรูขุมขนได้อย่างล้ำลึกแล้ว ยังช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน และช่วยกระชับรูขุมขนด้วย
สาวยิ้มสวย รินทร์รตา อินทามระ เล่าว่า เราต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ นอกจากหน้ากากอนามัยแล้ว เราก็มักจะบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์มากกว่าปกติก่อนออกจากบ้าน เพราะเราเชื่อว่าพื้นฐานผิวที่ดี คือ ผิวที่มีความชุ่มชื้น รวมถึงไม่ควรลืมที่จะทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน และเมื่อกลับถึงบ้านก็จะรีบล้างทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิว นอกจากนี้เราก็จะหาเวลามาทำทรีตเม้นต์เองที่บ้านด้วยการมาส์กและสครับผิวสัปดาห์ละครั้ง สำหรับใครที่มีผิวแพ้ง่ายแบบเราแนะนำว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ ยิ่งถ้าเป็นออแกนิคด้วยก็จะดี เพราะจะได้ลดโอกาสเสี่ยงต่ออาการแพ้ได้
ปิดท้ายที่สาวผิวสวย กมลพร วงศ์รักมิตร เผยว่า ฝุ่น PM 2 ส่งผลกระทบถึงผิวของเราด้วย ทำให้ผิวเราเกิดผด ผื่นได้ง่าย เนื่องจากมลภาวะเราต้องเผชิญในปัจจุบันทำให้เราต้องคอยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหันกลับมาดูแลตัวเองอยู่เสมอ อย่างการดูแลผิวของเราจะเน้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ ที่ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีน้ำหอมสังเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ผิวกาย รวมถึงเส้นผมด้วย ส่วนเทคนิคการบำรุงผิวของเราก็จะเน้นบำรุงผิวหลังการอาบน้ำ เพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนเปิดทำให้ครีมบำรุงต่างๆ ที่เราทาลงไปสามารถซึมซาบสู่ผิวได้ดี