“จาตุรนต์” เย้ยคะแนนนิยม “บิ๊กตู่” ตกต่ำ จนอาจเป็นที่เกลียดชังของคนจำนวนมาก แซะดึง “ม.ร.ว.ปรีดิยาธร” นั่งหน.ทีมศก.เพราะไม่เหลือใครแล้ว
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตรองนายกฯ กล่าวกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมเสนอพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.เป็นแคนดิเดตนายกฯ ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่เหลืออายุในตำแหน่งอีก 2 ปีว่า เข้าใจว่าพรรคปชร.อยู่ในสภาพจำยอมและรู้ดีว่าคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ตกต่ำมากที่สุด จนอาจเป็นที่เกลียดชังของคนจำนวนมาก แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังมีความสำคัญ เพราะยังมีเครือข่ายที่สร้างไว้ตั้งแต่เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมทั้ง 250 ส.ว.ก็ยังคงฟังพล.อ.ประยุทธ์มากกว่าพล.อ.ประวิตร ซึ่งส.ว.250 คนถือเป็นคะแนนที่มากกว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลรวมกัน
ดังนั้นการที่บอกว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นก่อนแล้วพล.อ.ประวิตรเป็นทีหลังนั้น ก็เป็นไปตามสภาพความเป็นจริงที่พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค ส.ส.ของพรรคพปชร.รู้ว่าพล.อ.ประวิตรจะเล่นการเมืองแอคทีฟนานๆ ไม่ได้ จึงเป็นสภาพจำยอม
“ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ร่วมจริง พรรคพปชร.จะได้เปรียบเพราะยังมี 250 ส.ว.ซึ่งจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลอื่นเกรงใจ ขณะเดียวกันคะแนนนิยมที่พรรคพปชร.ได้ก็จะน้อยลงอย่างมาก ดังนั้นพรรคพปชร.จึงต้องแลกระหว่างเสียงส.ว.หรือจำนวน ส.ส.” นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า หากยังคงเป็น 2ป.ก็จะเป็นผลดีกับพรรคพท.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนจะทำให้ถึงขั้นแลนส์สไลด์หรือไม่นั้น พรรคพท.ต้องทำงานอีกมาก ต้องพยายามสร้างความนิยมให้สูงมากขึ้น ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าต้องสนับสนุนพรรคพท.ไม่เช่นนั้น 3ป.ก็จะมีอำนาจต่อไป
นายจาตุรนต์ กล่าวกรณีที่พรรคพปชร.เตรียมเชิญ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ เข้ามาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค พปชร.ว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเคยออกมาจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ซึ่งมีพล.อ.ประวิตรร่วมเป็นแกนนำ การจะกลับเข้าไปร่วมงานกันอีก ถ้าดูจากสภาพภายนอกไม่ง่ายนัก ไม่รู้ว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธรคิดอย่างไร ทั้งนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเป็นคนมีความรู้ ความสามารถและมีประสบการณ์ แต่ไปอยู่ในเงื่อนไขที่ไม่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะอยู่กับนายกฯ ที่ไม่มีวิสัยทัศน์และไม่ฟังใคร และไม่มีทางเปลี่ยนนิสัยดังกล่าวได้ ดังนั้นการกลับเข้าไปคงช่วยรัฐบาลไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การที่พรรคพปชร.ย้อนกลับไปที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร สะท้อนให้เห็นว่ามองไปข้างหน้าก็ไม่เห็นใคร ความร่วมมือจากส่วนอื่นก็มีน้อยเต็มที.