นายกฯ รับทราบแล้ว’ฮุน เซน’ติดโควิดชวดร่วมประชุมเอเปคที่ไทย ยืนยันตัวเองยังรอดตรวจหาเชื้อทุกวัน
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาร่วมการประชุมผู้นำเอเปค ที่จัดขึ้นในประเทศไทย
ว่า ตามกติกาแล้วเป็นการเชิญผู้นำโดยตรง และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ไม่ได้เดินทางมาเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 ส่วนตนได้มีการตรวจหาเชื้ออยู่ตลอดอยู่แล้ว มีทั้งตรวจกันเองที่บ้าน รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาตรวจให้ และหากวันไหนมีไปงานพิเศษก็จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจให้ที่ทำเนียบรัฐบาล และขณะนี้ยังโอเคอยู่
เมื่อถามว่าจะต้องมีการเพิ่มมาตรการการตรวจหาเชื้อโควิด 19 หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีตรวจอยู่แล้วทั้งที่โรงแรมและคณะเดินทางมาก็จะมีการตรวจหาเชื้อและแสดงผล ระมัดระวังอย่างที่สุด และไม่มีใครอยากเป็น ช่วงนี้เป็นการเดินทางเขาก็ปล่อย พบการติดเชื้อจำนวนมาก ตนจึงอยากฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชน วันนี้มีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ ไม่อยากให้มันกลับมาอีก ทั้งการท่องเที่ยวและธุรกิจก็ดีขึ้น
เมื่อถามว่า ที่การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้มีการเน้นย้ำเรื่องการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปคหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการกำชับอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่มีการติดตามนำเสนอเข้ามามากพอสมควรในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คือการเจรจาข้อตกลงพันธสัญญาต่างๆ ซึ่งต้องนำมาพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เป็นไปตามกฎหมาย และไม่เข้าตามมาตรา 178 ในการการทำหนังสือสัญญาสันติภาพ สัญญาสงบศึก และสัญญาอื่นกับนานาประเทศหรือกับองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งวันนี้มีอยู่ประมาณ 7-8 เรื่องที่จะต้องลงนาม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้ มีวาระจรเข้ามามาก ไม่ใช่อยู่ดีๆ แล้วจะร่างขึ้นมาแล้วนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แล้วนำไปปฏิบัติไม่ใช่ต้องเจรจาจากข้างล่างขึ้นมาก่อน จากทุกประเทศที่เป็นสมาชิก แล้วจึงนำมาเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อรอการอนุมัติขั้นตอนเป็นเช่นนั้น
เมื่อถามว่า จะมีการพบปะกับผู้นำสาธารณรัฐประชาชนจีน จะมีการหารืออะไรเป็นประเด็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปกติแล้วจะมีการพูดคุยกันในห้องประชุมอยู่แล้วทั้งการประชุมทวิภาคี ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นหลักการเดียวกัน มีการเจรจาเพื่อลดผลกระทบเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันในหลายมิติ รวมไปถึง Open Connect and Balance ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็พยายามทำอย่างนี้มาโดยตลอดในทุกเวที ต้องสร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจซึ่งกันและกัน และนำประเด็นที่มีความต้องการตรงกัน มีผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อประชาชนของเราโดยรวม