“ประยุทธ์”ขอคนไทยร่วมภาคภูมิใจวันพิเศษของประเทศ เป็นเจ้าภาพประชุมเอเปค ยืนยันผลการประชุม-หารือทวิภาคีผู้นำโลกไทยได้ประโยชน์มหาศาลทั้งทางตรงและทางอ้อม
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า วันนี้ (18 พ.ย. 65) เป็นวันที่พิเศษอย่างยิ่งอีกวันหนึ่ง สำหรับประเทศไทย เนื่องจากเรามีภารกิจสำคัญในการประชุมเอเปคกับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ซึ่งเป็นผู้นำและตัวแทนประเทศระดับชั้นนำของโลกจำนวนมาก รวมทั้งนักธุรกิจ และผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ ที่ได้เดินทางเข้ามาร่วมประชุมที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ตลอดทั้งวัน โดยมีกำหนดการประชุมในวันนี้ ดังนี้ครับ
09.15 น. การประชุมเขตผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 (Retreat ช่วงที่ 1) ภายใต้หัวข้อ “การเจริญเติบโตที่สมดุล ครอบคลุมและยั่งยืน (Balanced, Inclusive and Sustainable Growth)”
11.15 น. การหารืออย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคกับแขกพิเศษ (APEC Leaders’ Informal Dialogue with Guests)
13.00 น. การหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค กับแขกพิเศษ ในช่วงอาหารกลางวันภายใต้หัวข้อ “การส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ครอบคลุมในช่วงเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤติเงินเฟ้อ”
14.45 น. การหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค กับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (APEC Leaders’ Dialogue with ABAC)
หลังจากนั้น เวลา 17.30 น. ผมและภริยา มีกำหนดการนำผู้นำและผู้แทนเขตเศรษฐกิจเอเปค พร้อมคู่สมรส และแขกพิเศษต่างประเทศ เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
นอกจากนั้น ในช่วงเวลา 22.00 – 00.15 น. จะเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่ง ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ระหว่าง 2 ราชอาณาจักร คือ รัฐบาลไทย จะได้จัดให้มีพิธีรับเสด็จจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเสด็จฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ณ ทำเนียบรัฐบาล ตลอดจนได้มีการหารือทวิภาคี และงานถวายพระกระยาหารค่ำอีกด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุอีกว่า สำหรับการเป็นเจ้าภาพของไทยในครั้งนี้ ถือว่าผ่านมาได้ด้วยดีกว่าครึ่งทางแล้ว โดยได้รับคำชื่นชมทั้งจากคณะผู้นำและแขกพิเศษต่างๆ ตลอดจนสื่อมวลชนจากทั่วโลก ทั้งเรื่องการบริหารจัดการและงานเลี้ยงต้อนรับ ที่เมื่อคืนวาน (17 พ.ย.65) นอกจากอาหารไทยที่ผ่านกระบวนการคัดสรรมาเป็นอย่างดี สามารถเล่าเรื่องราวความเป็นไทย ผ่านศิลปะการตกแต่งอาหารได้อย่างประณีตและสวยงามแล้ว ยังมีการแสดงทางวัฒนธรรมที่งดงามของไทย ทั้ง 4 ภาค ประกอบฉาก แสง สี เสียง ที่เชื่อว่าได้สร้างความประทับใจให้กับแขกบ้านแขกเมืองผู้มีเกียรติทุกคนในงาน และเป็นสิ่งยืนยันผลการจัดอันดับของไทยที่เป็นชาติที่มีมรดกทางวัฒนธรรมอันดับต้นๆ ของโลกได้เป็นอย่างดี
“จากการประชุมและหารือระดับทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศชั้นนำของโลกที่ผ่านมา ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสและประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้อย่างมหาศาล ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งในระยะสั้นที่จะเห็นผลทันที และระยะยาวที่จะเกิดโครงการต่อยอดไปอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การสร้างรายได้เข้าประเทศจากการลงทุน การท่องเที่ยว การส่งออก ด้านสังคม ความร่วมมือกันพัฒนาการศึกษา วิจัย และแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ให้ไทยก้าวล้ำทัดเทียมนานาอารยประเทศ รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มคุณภาพชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่เพียงชาวไทย แต่รวมไปถึงมวลมนุษยชาติ และสิ่งมีชีวิตร่วมโลกด้วย ที่โลกจะต้องจารึกไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีจุดเริ่มต้นจากการผลักดันของ “เป้าหมายกรุงเทพ” ในการประชุมเอเปค 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพและมีบทบาทนำในการเสนอนโยบายต่างๆในประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นผมและสิ่งที่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน จะร่วมภาคภูมิใจได้เป็นอย่างยิ่งครับ”