นายกฯกำชับปราบภัยออนไลน์ทุกรูปแบบจริงจัง ระงับการเผยแพร่ข้อมูลเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ป้องกันประชาชนตกเป็นเหยื่อฉ้อโกง “
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 65 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อป้องกันและระงับการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือและเร่งดำเนินการปราบปรามภัยออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างจริงจังและเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงการสร้างความเข้าใจผิดอันเกิดจากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
ขณะที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ 36 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางคุ้มครอง เยียวยาความเสียหายแก่ประชาชน ให้ประชาชนรู้เท่าทันการกระทำความผิดผ่านคอมพิวเตอร์และสังคมออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่องขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ การนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2565 ซึ่งปรับปรุงประกาศฉบับเดิมเมื่อปี 2560 ให้รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สอดคล้องกับการใช้งานของประชาชนในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันได้สร้างหลักประกันแก่ผู้ให้บริการ สื่อสังคมออนไลน์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งระบุการปฏิบัติของผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งจะต้องจัดทำแบบฟอร์มข้อเรื่องร้องเรียน (Complaint Form) เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนทั่วไป สามารถแจ้งเนื้อหาที่เป็นความผิด ทั้งข้อมูลเท็จ บิดเบือน ปลอมแปลง กระทบต่อความมั่นคง เมื่อได้รับแจ้งแล้ว ให้ระงับหรือนำเนื้อหาที่ผิดกฎหมายออกจากระบบภายในระยะเวลาที่กำหนด
“นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนที่อาจจะตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันการกระทำความผิดเนื่องจากการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ การฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงการสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนผ่านระบบคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีประชาชนจำนวนมาก ได้รับความเสียหาย จากข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ นายกรัฐมนตรี จึงสั่งการไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินงานตามแนวนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการจัดการการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน รวมถึงความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนด้วย” นายอนุชา กล่าว
