ฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย ชี้สูตรหาร 100 ส่งครบ 400 เขตกวาด ส.ส.บัญชีรายชื่ออื้อจี้กกต.เร่งตรวจสอบ ปมเงินบริจาค ‘ตู้ห่าว’ ฟันธง ‘บิ๊กตู่’ คะแนนนิยมฮวบ
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการนำผลคะแนนการเลือกตั้งปี 62 มาคิดคำนวณว่าตามระบบหาร 100 ที่จะประกาศใช้ พรรคใดจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเท่าไร โดยมีพรรคที่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 4 พรรคนั้นตนเห็นว่า คงจะเอาฐานคะแนนการเลือกตั้งปี 62 มาคิดคำนวณไม่ได้ เนื่องจากการเลือกตั้งปี 62 เป็นการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียวเป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสม เอาคะแนนเขตมาคิดคะแนนบัญชีรายชื่อ มีระบบปัดเศษ ถ้าได้ส.ส.เขตเกินส.สพึงมีจะไม่ได้ส.ส.บัญชีตามที่พรรค พท. ประสพมาแล้ว
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า แต่ระบบที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น เป็นแบบบัตรสองใบ แยกกันนับเหมือนการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ2540 และการเลือกตั้งปี 2554 พรรคที่ได้รับความนิยมมากมีโอกาสที่จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อมาก ดังนั้นตัวเลขที่ปรากฏว่าพรรค พท. จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 22 คนนั้นยิ่งคลาดเคลื่อนไปใหญ่ เพราะนอกจากจะเป็นคนละระบบแล้ว การเลือกตั้งปี 2562 มีการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 350 เขต พรรค พท. ส่งส.ส.เพียง 250 เขต ไม่ครบ 350 เขต ถ้าส่งครบ 400 เขตตามรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมปัจจุบัน จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจะมากกว่าที่คิดคำนวณออกมาเป็นจำนวนมาก
น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค พท. กล่าวเรียกร้องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งดำเนินการ กรณีปี 2564 นายตู่ห่าวกลุ่มทุนจีนสีเทา บริจาคเงิน 3 ล้านบาท ให้บางพรรคการเมือง ภายหลังศาลมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์นายตู้ห่าว อยากฝากถึง กกต. ว่าการบริจาคเงินให้พรรคการเมืองของนายตู้ห่าวในปี 64 มูลค่า 3 ล้านบาท ถือว่าเข้าข่ายความผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)พรรคการเมือง ม.72 และ ม.92 ใช่หรือไม่ อาจทำให้ถึงขั้นยุบพรรคได้ อย่าเมินเฉยละเลยข้อสงสัยของสังคมเพื่อป้องกันและสร้างมาตรฐานการบริจาคเงินให้พรรคการเมืองในอนาคต
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องไม่ลืมว่าตนเองถูกเสนอชื่อเป็นแคนนิเดตนายกฯจากพรรคการเมืองดังกล่าว นอกจากท่านจะไม่เหลือความสง่างามใดๆ ในการบริหารประเทศจากหลายกรณีที่ผ่านมาทั้งความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ยังคงปล่อยปละละเลยจนการทุจริตตกต่ำลงเรื่อยๆ ตามที่องค์กรนานาชาติจัดอันดับ รีบประกาศยุบสภา เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค พท.กล่าวถึงเหตุการณ์สภาล่มว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลในช่วงใกล้ครบวาระหดหาย ประชาชนได้สะท้อนผ่านโพล คะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ทรุดต่ำลงตลอด สวนทางกับความมั่นใจของพล.อ.ประยุทธ์ ที่เชื่อมั่นว่าต้องเดินไปตามลายแทงที่ทีมเสธ.เขียนให้ พยายามยื้ออำนาจให้นานที่สุด ลากอายุสภาไปให้ได้นานที่สุด ก่อนตัดสินใจยุบสภา พร้อมประเมินพล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งฝืนอยู่ คะแนนยิ่งหาย อย่าหวังพึ่งปาฏิหาริย์ลมๆ แล้งๆ ว่าสักวันลูกจะเข้าทาง พลิกมาช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงเลือกตั้ง ทั้งนี้ 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้อะไรไปมากมาย แต่ทำประเทศเสียโอกาสไปมาก ประชาชนรอสั่งสอนเครือข่ายสืบทอดอำนาจ พร้อมเข้าคูหากาบอกลาและส่งทีมลุงกลับบ้าน.
