“บิ๊กตู่” สั่งทบทวนค่าไฟฟ้าภาคธุรกิจ

นายกฯ ห่วงภาคธุรกิจเร่งหาแนวทางลดค่าไฟด่วน บอร์ดกกพ.รับลูกถกประชุม 28 ธ.ค.นี้ ด้านกฟผ.ย้ำไม่สามารถกู้เงินได้อีกแล้ว รัฐต้องยกเว้นเงินนำส่งเข้าคลังปี งบประมาณ 65 เท่านั้น

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยความคืบหน้าการปรับลดค่าไฟฟ้าภาคธุรกิจว่า รัฐบาลก็ไม่ได้อยากไปผลักภาระให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีบุญคุณต่อการเติบโตของประเทศ ซึ่งตัวเลข Ft จะลดลงแน่นอน แต่อาจไม่ถูกใจใคร ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่ายหันมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ส่วนพิจารณาตัวเลขคืนกฟผ.ที่ 0.33 สตางค์ต่อหน่วยนั้นถือว่าต่ำที่สุดแล้ว

“ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนราคาค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ให้ถูกลงกว่าเดิมที่ 190.44 สตางค์ต่อหน่วย แต่ไม่ให้ขึ้นเลยเป็นไปได้ยาก ดังนั้นในวันที่ 28 ธ.ค.นี้จะประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อคำนวณตัวเลขใหม่อีกครั้ง”

นอกจากนี้ที่ผ่านมาไทยเผชิญวิกฤติพลังงาน การนำเข้าราคาก๊าซธรรมชาติ LNG สูงมากระดับ 29-30 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู เพราะผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครนที่ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ค่าไฟสูง ขณะที่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จะเร่งกำลังผลิตในอ่าวไทยให้มากขึ้น
ทั้งนี้เป็นไปได้หรือไม่ที่เอกชนบางส่วนที่ใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตให้มีการใช้ลดลงเพื่อลดนำเข้า LNG โดยหันไปใช้น้ำมันเตา และดีเซล แทนเป็นการชั่วคราวหรือหากต้องการใช้ก็ขอให้ไม่เป็นราคา Pool Price ซึ่งเอกชนเหล่านี้ก็อยู่ในคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) เช่นเดียวกับสมาคมธนาคารไทยสามารถลดอัตราดอกเบี้ยช่วยเหลือกันเองได้หรือไม่ รวมถึงการทบทวนค่าความพร้อมจ่าย(AP)ที่กฟผ.พร้อมจะเจรจาเอกชนอยู่แล้ว เป็นต้น

“ วันนี้เรานำเข้าพลังงานแพง ผลิตไฟฟ้าราคาไม่คิดค่าสายส่งราวหน่วยละ 6.50 บาท หากรวมราวหน่วยละ 7-8 บาท เราจะต้องลดการนำเข้าก๊าซ LNG ใช้น้ำมันดีเซลมาผลิตไฟเดือนละ 400 ล้านลิตร หรือ 15% และการขยายเวลาใช้ถ่านหิน 5% รวมเป็น 20% เข้าไปแล้ว ซึ่งการขนส่งก็ไม่ง่าย ที่ผ่านมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกหนี้กว่า 1 แสนล้านบาท ดังนั้น ภาคธุรกิจฟื้นตัวดีขึ้น การใช้ไฟฟ้ามาก และยิ่งมากเท่าไหร่เราต้องนำเข้า LNG มากขึ้นเท่านั้น”

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่ากฟผ. กล่าวว่า กฟผ.ยังจำเป็นจะต้องได้รับเงินเพื่อทยอยจ่ายคืนหนี้ซึ่ง ณ สิ้นเดือนธ.ค. จะรวมเป็น 1.6 แสนล้านบาท เพราะไม่สามารถกู้เงินได้อีกแล้วหากจะช่วยเหลือค่าไฟจำเป็นที่รัฐจะต้องพิจารณางบประมาณมาสนับสนุนหรือ การยกเว้นการนำเงินส่งเข้าคลังของกฟผ.ทั้งหมดในปีงบประมาณ 2565 เท่านั้นเพื่อมาชดเชยกับภาระที่กฟผ.จะได้รับทยอยคืนเงินจากการคำนวณค่าไฟงวดม.ค.-เม.ย. 66 เฉลี่ยที่คำนวณไว้ราว 0.33 บาทต่อหน่วย

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและในฐานะโฆษกกกพ. กล่าวว่า ขณะนี้กกพ.ได้รับข้อมูลจากกระทรวงพลังงานและบอร์ดกกพ.จะหารือ 28 ธ.ค.นี้ส่วนจะลดลงได้มากน้อยแค่ไหนอยู่ที่ 2 ส่วนสำคัญคือ 1.กฟผ.จะมีความสามารถในการเลื่อนชำระหนี้ได้มากน้อยเพียงใดเพราะงวดม.ค.-เม.ย.66 ได้มีการคำนวณค่าไฟทยอยคืนกฟผ. 0.33 บาทต่อหน่วยหรือคิดเป็นวงเงิน 2 หมื่นล้านบาทต่องวดจากยอดหนี้รวม 1.2 แสนล้านบาท(ณ เดือนส.ค.65) โดยทยอยจ่ายคืนภายใน 2 ปี และ 2. บมจ.ปตท.มีการทบทวนตัวเลขราคาก๊าซฯสำหรับโรงไฟฟ้าเอกชน