ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 11.23 จุด แรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์หลังงบไตรมาส 4/65 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ คาดตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่ม มองแนวโน้มสัปาดห์หน้าแกว่งไซด์เวย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยดึงดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,677.25 จุด ลบ 11.23 จุด หรือ 0.67% โดยดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุด 1,688.59 จุด และต่ำสุด 1,672.49 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 76,370.56 ล้านบาท
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐาน ปัจจัยกดดันหลักๆ มาจากผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะ 3 แบงก์ใหญ่อย่าง BBL ,KBANK ,SCB กำไรออกมาต่ำกว่าคาดมาก ทำให้ Sentiment ภาพรวมดูไม่ค่อยดี และยังส่งผลกระทบทางจิตวิทยามายังกลุ่มไฟแนนซ์ด้วย จะเห็นได้ว่าวันนี้ปรับลงไปค่อนข้างมากกว่ากลุ่มแบงก์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อภาพเศรษฐกิจและความเสี่ยงของการเก็บหนี้ภาคธุรกิจ (SME) หลังแบงก์พาณิชย์ต่างตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับสูง
ด้านมูลค่าการซื้อขายพบว่า สถาบันขายสุทธิ 4,191.70 ล้านบาท ต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,874.83ล้านบาท
บัญชีบล.ซื้อสุทธิ 1,710.97 ล้านบาทในประเทศซื้อสุทธิ 5,355.56ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้า ดัชนีน่าจะแกว่งไซด์เวย์ ช่วงที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียหลายแห่งปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ทำให้ Fund Flow เบาบาง อีกทั้งนักลงทุนยังคงเกาะติดการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อเนื่อง และมีความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้นหลังงบแบงก์ออกมาไม่ค่อยดีให้แนวรับไว้ที่ 1,665 จุด และแนวต้าน 1,690 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 11,708.02 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 9.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,649.56 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,446.64 ล้านบาท ปิดที่ 108.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,442.13 ล้านบาท ปิดที่ 12.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,140.91 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
