‘จุรินทร์’ ไม่ห่วงข่าว‘ปชป.-รทสช.’ซัดกันนัว ขอเดินหน้าหาเสียง เผยส่งไลน์ให้กำลังใจ‘บิ๊กตู่’หายป่วยโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.66 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปรับการคำนวณจำนวนประชากร ทำให้เกิดแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ส่งผลให้จ.นครศรีธรรมราชและปัตตานีมีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้น ว่า เป็นเรื่องดีที่จ.นครศรีธรรมราชและปัตตานีมีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้น โดยกรณีจ.ปัตตานีกลายเป็น 5 เขต ซึ่งเดิมมี 4 เขต และในวันที่ 5 มี.ค.นี้ พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ปัตตานีทั้ง 5 เขต ส่วนที่จ.นครศรีธรรมราช เพิ่มเป็น 10 เขต โดยเรากำลังดำเนินการ แต่ไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครเกินจำนวนเขตเลือกตั้งอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าการปรับเปลี่ยนการแบ่งเขตเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้ภาคใต้มีจำนวนเขตเลือกตั้งรวมทั้งหมด 60 เขต จากเดิม 58 เขตนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะมีความหวังว่าจะได้ส.ส.เพิ่ม ใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ใช่ ตนมั่นใจว่าเราจะได้ส.ส.ในภาคใต้อย่างน้อยก็ 40 บวก
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกกังวลอะไรหรือไม่ จากกรณีที่ยังมีการตอบโต้กันไปมาระหว่างคนของพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องกังวล และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการตอบโต้กับใคร เราทำหน้าที่ของเรา เราลงพื้นที่หาเสียงต่อไป โดยเรามั่นใจว่าในภาคใต้ เสียงตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ยังแน่นเหนียว และพบว่าที่หลายคนบอกว่าคราวที่แล้วไม่ได้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่จะเลือกเราในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน
ต่อข้อถามว่าคนที่บอกว่าจะกลับมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นเพราะเห็นว่าพรรคฯถูกกระทำใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า สุดแล้วแต่เหตุ แต่เรามั่นใจว่าอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยน 4 ปีที่ผ่านมา เรายืนหยัดมั่นคงในอุดมการณ์ของเรา และมีผลงานจากการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งปรากฎให้เห็นเป็นรูปธรรม รวมถึงในการเฟ้นตัวผู้สมัคร ส.ส.เที่ยวนี้ เราได้คนรุ่นใหม่และคนใหม่ๆที่มีศักยภาพจำนวนมากเข้ามาเสริมทัพ ถือว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่งให้กับประชาชนในภาคใต้
เมื่อถามว่าได้รับทราบข่าวกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้ารับการรักษาอาการมือบวม ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แล้วหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนทราบข่าวดังกล่าวแล้ว และได้ส่งข้อความผ่านทางไลน์ไปถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้กำลังใจและขอให้นายกรัฐมนตรีหายจากอาการทั้งหมดด้วยเร็วที่สุด เพราะท่านถือเป็นบุคคลสำคัญ และเราอยากเห็นท่านกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุดเช่นกัน
