องคมนตรี ลงพื้นที่ติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกาญจนบุรี
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง และพลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 10 หน่วยงาน อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้แทนสำนักงาน กปร. กรมชลประทาน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมที่ดิน กรมทางหลวง เป็นต้น ร่วมหารือเร่งรัดแนวทางในการดำเนินงานสนองพระราชดำริเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
ในโอกาสนี้ ได้ติดตามการดำเนินงานจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตะกึงพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี และโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยตะเพินอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยรับฟังสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน และผลการดำเนินงานการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง จำนวน 14 โครงการ
ในพื้นที่จัหวัดกาญจนบุรี มีโครงการติดตามและขับเคลื่อน จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการฝายทดน้ำบ้านรางเข้พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยป่าไร่พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองปรือ อำเภอหนองปรือ
โครงการฝายทดน้ำบ้านบึงหล่มพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย และโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตะกึงพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณปี 2562 ในการเปิดหัวงานจากสำนักงาน กปร. จำนวน 14,480,000 บาท เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง มีความความจุ 5.65 ลูกบาศก์เมตร พร้อมระบบส่งน้ำ กำหนดแล้วเสร็จในปี 2565 ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตรของราษฎร จำนวน 200 ครัวเรือน มีพื้นที่รับประโยชน์ จำนวน 3,000 ไร่
ต่อมาช่วงบ่าย องคมนตรี และคณะฯ เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองปรือ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นการสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานพระราชดำริไว้ตั้งแต่ 28 ม.ค. 2533 มีลักษณะเป็นเขื่อนดิน ขนาดความจุ 23.10 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างระบบส่งน้ำ ความยาวรวมทั้งสิ้น 27.927 กิโลเมตร
เมื่อระบบส่งน้ำแล้วเสร็จช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งซ้ำซากในช่วงฤดูแล้ง บรรเทาอุทกภัยบริเวณพื้นที่ตอนล่างของโครงการในช่วงฤดูน้ำหลาก รวมถึงเป็นแหล่งกักเก็บน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูก ใช้ในการอุปโภค บริโภคของราษฎร เป็นแหล่งแพร่พันธุ์ปลาน้ำจืด แหล่งท่องเที่ยว และส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่ชลประทานโดยระบบท่อส่งน้ำ พื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 7,500 ไร่
จากนั้น องคมนตรี ได้ปลูกต้นรวงผึ้ง เพื่อเป็นที่ระลึกและเพิ่มความชุ่มชื้น และรักษาสภาพแวดล้อมให้มีความอุดมสมบูรณ์ตลอดไป พร้อมกันนี้ ได้ร่วมกันปล่อยปลาตะเพียน จำนวน 10,000 ตัว ในอ่างเก็บน้ำเพื่อเป็นการขยายพันธุ์ปลาน้ำจืดและเป็นแหล่งอาหารให้กับประชาชนได้มีไว้บริโภคและเป็นรายได้เสริมให้กับครัวเรือนอีกด้วย
โอกาสนี้ องคมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมแปลงเกษตรของนางสาวไพฑูรย์ ศรีเวียง ราษฎรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ ซึ่งมีพื้นที่ จำนวน 30 ไร่ แต่เดิมปลูกอ้อย และสัปปะรด แต่เมื่อได้รับน้ำจากระบบส่งน้ำของโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงเปลี่ยนรูปแบบมาปลูกพืชแบบสมผสาน เช่น พืชผักสวนครัว ปลูกถั่ว มะละกอ และมีสระเก็บน้ำสำหรับเลี้ยงปลานิลและปลาดุก ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้มีรายได้ที่พอเพียงและชีวิตที่มั่นคงยิ่งขึ้นอีกด้วย.