“อุ๊งอิ๊ง” ขอคะแนนเลือกคนสงขลา เลือกเพื่อไทยเพื่อเข้ามาแก้ปัญหาให้ประชาชน ด้าน “เศรษฐา” ยันแจกเงินหมื่นทำได้แน่นอน
เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 26 เม.ย. 66 ที่ตลากกิมหยง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคณะ ลงพื้นที่พบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนมาจับจ่ายใช้สอย ขอคะแนนเสียงให้พรรค พท. ในการช่วยเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง โดยมีประชาชนขอถ่ายภาพกับนายเศรษฐาและนายพานทองแท้อย่างคึกคัก
จากนั้นเวลา 18.00 น. ที่รร.เทคโนโลยีหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พรรค พท. จัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดยนายเศษฐา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย โดยมีประชาชนสนใจร่วมรับฟังการปราศรัยจำนวนมาก โดยน.ส.แพทองธาร วิดีโอคอลผ่านระบบซูมมายังเวทีปราศรัยว่า วันนี้ตนอยากไปมากแต่คุณหมอไม่ให้เดินทางเพราะนับถอยหลังวันคลอดแล้ว วันนี้ดีใจที่ได้เห็นคนมาร่วมตัวกันมากเช่นนี้ ตั้งแต่โควิดที่ผ่านมา ประชาชนยังไม่ฟื้นคืนกลับมาเหมือนก่อนโควิด เงินในกระเป๋าที่ควรมีรัฐบาลดีๆมาช่วยประชาชนให้พลิกฟื้นก็ยังไม่ได้ วันนี้พรรค พท. อยากช่วยกลับมาทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดียิ่งกว่าช่วงโควิด ที่สงขลา มีเขตธุรกิจใหม่ที่อยากขยายโอกาสการทำธุรกิจ เราเห็นว่ามีกฎหมายหลายข้อติดตัด เราพร้อมเข้ามาเปลี่ยนแปลงกฎหมายเหล่านั้นที่มีมากและยุ่งยากเกินไป เราเชื่อว่าสามารถเข้ามาแก้กฎเหล่านี้ได้ และเรื่องโครงสร้างการสร้างเงินสร้างรายได้
“พรรค พท. มีนโยบายเข้ามาสนับสนุนชาวใต้ วันนี้ตนฝากให้พี่น้องชาวใต้ ชาวสงขลา ให้ช่วยเลือกพรรค พท. หวังว่าพรรค พท. จะได้มีส.ส.จากสงขลา ให้ได้ทำประโยชน์ให้ประชาชนโดยตรง เพราะรู้ปัญหาและวิธีแก้โดยตรงในพื้นที่ ถ้าได้ชาวสงขลาเข้ามาจะได้ผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์แก่ชาวสงขลา” น.ส.แพทองธาร ระบุ
นายเศรษฐา ปราศรัยว่า สำหรับจังหวัดที่เราไม่เคยมีส.ส.เลย แต่คนมาจำนวนมากเช่นนี้เป็นสิ่งน่ายินดีอย่างยิ่ง ตลอดเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมา เลือกตั้งเมื่อใดพรรค พท. ชนะทุกครั้ง แต่มีส.ส.ภาคใต้น้อยมาก แต่เราตั้งใจเป็นตัวแทนประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่ภาคไหน ทุกนโยบายที่เราเสนอไม่ใช่แค่นโยบายสำหรับประเทศ แต่เป็นระดับโลก เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค ที่หลายประเทศนำไปทำตาม หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ก็มีการนำสินค้าไปสู่ตลาดโลก ช่วงที่คนเดือดร้อนก็มีนโยบายพักหนี้ แต่วินัยการเงินการคลังเราไม่เคยเปลี่ยน ในอดีตราคายางกิโลกรัมละ 80 บาท วันนี้ 3 กิโล 100 แล้ว ส่วนการประมงเราเป็นประเทศส่งออกสัตว์น้ำสูงสุดในโลกเมื่อ 8-9 ปีที่ผ่านมา แต่เมื่อมีการรัฐประหาร ผู้นำไปตกลงเกี่ยวกับเรื่องการประมงทำให้ประชาชนเสียผลประโยชน์จำนวนมาก ถ้ารัฐบาลพรรค พท. ได้รับความไว้วางใจจะแก้ไข เรือประมงไทยต้องออกไปจับสัตว์น้ำได้ทันที ประมงรายย่อย รายกลาง รายใหญ่ต้องกลับมาทำงานได้
นายเศรษฐา ปราศรัยอีกว่า จ.สงขลามีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยว การเดินทางของนักท่องเที่ยวต้องสะดวกขึ้น และทำให้จ.สงขลา เป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวของจังหวัดข้างเคียง และสำหรับอาการฮาลาล มีตลาดที่ต้องการอีกเยอะมาก เรามีความมั่นคงทางอาหารสูง จะผลักดันให้สงขลาเป็นศูนย์กลางผลิตอาหารฮาลาลส่งขายทั่วโลก เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญเรามีนโยบายมากมาย ทั้งขึ้นค่าแรง ขึ้นเงินเดือน และดิจิทัลวอลเล็ต จากวิกฤติโควิดที่ผ่านมา การช่วยเหลือของรัฐบาลไม่เพียงพอ ประชาชนต้องการเงินก้อนใหญ่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ เราจึงคิดนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทมากระตุ้น คนอายุ1 6 ปี ขึ้นไป 50 กว่าล้านคน วันที่เราให้เงินไป จะมีเงินเข้าสู่ตลาด 5 แสนกว่าล้าน จะกระตุ้นการผลิตสินค้า มีการจ้างงาน มีการซื้อวัตถุดิบ ทำให้มีการหมุนเวียนเศรษฐกิจ รัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีเข้ามาโดยไม่ต้องขึ้นภาษี เป็นเงินที่ประเทศจะได้กลับคืน ใครมาบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกิดไม่เป็นความจริงเราคิดใหญ่ทำเป็นต้องทำให้ได้
“วันนี้เรามาอ้อนวอนขอแบ่งปันความรัก เข้าใจพี่น้องมีความผูกพันธ์กับพรรคการเมืองบางพรรค แต่โลกเปลี่ยนไป เราเสนอนโยบาย และมั่นใจบุคลากรของเรา ถ้าพรรค พท. ได้รับการเลือกตั้ง นายกฯจากพรรค พท. จะอุทิศเวลาทุกวินาทีเพื่อแก้ปัญหาปากท้องให้คนไทยทุกคน วันนี้มาขอคะแนนเสียงให้ผู้สมัครส.ส.พรรค พท. ถ้าผู้สมัครของเราไม่ได้เข้าสภาฯผมเสียใจ แต่ไม่ย่อท้อ เลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าผลเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ผมจะกลับมายืนตรงนี้ ผมจะกลับมาคุยกับพี่น้องเรื่องนี้ ผมจะกลับมาอ้อนวอน มาขอความรักจากพี่น้องต่อไป ขอความกรุณาเลือกผู้สมัครจากพรรค พท. ให้เข้าสู่สภาฯ” นายเศรษฐาระบุ