โฆษกกองทัพบก ออกแถลงยืนยันทุกการปฏิบัติของกองทัพไทยอยู่บนพื้นฐานกฎหมายสากลและเหตุผลชอบธรรม ชี้ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงหลายประเด็น และเรียกร้องให้ยึดหลักความจริงและกติกาสากล
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงถ้อยแถลงของ พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2568 ว่า เป็นการกล่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริงในทุกประเด็น
ประเด็นแรก พล.ต.วินธัยชี้แจงว่า การกล่าวอ้างว่ากองทัพไทยอาจกระทำการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศนั้นไม่เป็นความจริง กองทัพไทยปฏิบัติตามกฎหมายและกติกาสากลตลอดมา ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดกฎหมายสากล และประเทศไทยเพียงตอบสนองต่อพฤติกรรมกดดันจากกัมพูชา
ประเด็นที่สอง ยืนยันว่ากองทัพไทยไม่เคยใส่ร้ายหรือกระทำด้วยความทะเยอทะยาน ทุกการกระทำมีหลักฐานชัดเจนและดำเนินไปด้วยเหตุผลและความจำเป็นตามกฎหมาย เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
ประเด็นที่สาม พล.ต.วินธัยระบุว่า ฝ่ายไทยไม่ได้เป็นผู้เปิดฉากยิง กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ทำให้กำลังพลไทยบาดเจ็บ 2 นาย และมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและแถลงการณ์ร่วมอยู่ตลอด
ประเด็นที่สี่ โฆษกกองทัพบกชี้แจงว่า การใช้เครื่องบิน F-16 และอาวุธทางทหารของไทยเกิดขึ้นเฉพาะเป้าหมายทางทหาร ไม่ได้โจมตีพลเรือนหรือใช้แก๊สพิษตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง ทั้งพื้นที่ปราสาทตาควายและปราสาทพระวิหารถูกฝ่ายกัมพูชานำมาใช้เพื่อวางระบบอาวุธและคลังเก็บระเบิด
ประเด็นที่ห้า ย้ำว่าประชาคมระหว่างประเทศจะไม่ปล่อยให้การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศเกิดขึ้นโดยไม่ถูกลงโทษ และประเด็นที่หก กองทัพไทยเรียกร้องให้ยุติการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และยึดหลักความจริง
พล.ต.วินธัยสรุปว่า การบิดเบือนข้อเท็จจริงของกัมพูชาในครั้งนี้เป็นเพียงความพยายามใส่ร้ายป้ายสีประเทศไทยโดยไม่มีหลักฐาน ขอให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดพฤติกรรมดังกล่าวและยึดหลักความจริงกับกติกาสากลเพื่อความสงบและความมั่นคงในภูมิภาค.
