‘วิษณุ’ชี้‘ก้าวไกล’เขียนข้อบังคับเข้มยึดรธน.ม.98 (3) ห้ามผู้สมัครส.ส.-แคนดิเดตนายกฯถือหุ้นสื่อเอง ขอไม่ชี้ถูก-ผิด รอศาลวินิจฉัย
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าคดีพิพาทกำลังตัดสินในชั้นศาลปกครองสูงสุด ระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กับบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ว่าเรื่องนี้ตนไม่ทราบ ต้องถามปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะหลายหน แต่ก็ยังมีคดีอื่นๆ ค้างอยู่ มีทั้งคดีศาลปกครอง ศาลอาญา และศาลแพ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีคดีที่ศาลปกครองสูงสุดได้ทราบราบรายละเอียดหรือไม่ว่าจะมีการตัดสินภายในเดือนมิถุนายนนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่าถ้าชนะ จะทำให้บริษัท ไอทีวี กลับมาเป็นสื่อได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่าถ้ามีการฟื้นให้บริษัทไอทีวีกลับมาเป็นสื่อ จะกระทบกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ควรตอบ เรื่องนี้คุณควรคิดเองได้
ผู้สื่อข่าวถามว่านายพิธาบอกว่าโอนหุ้นไอทีวีไปแล้ว จะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขอไม่ตอบ เมื่อถามว่า การโอนหุ้นในภายหลัง ต้องดูกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่รู้ ดูอะไรก็ไม่รู้ ไม่ตอบ
เมื่อถามว่าขณะนี้เกิดการตีความพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่ได้กำหนดเรื่องการถือหุ้นสื่อของหัวหน้าพรรคการเมือง ขณะที่ข้อบังคับของพรรคก้าวไกลกำหนดเรื่องคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคว่าต้องห้ามการถือหุ้นสื่อ คิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินโดยยึดแนวทางใด นายวิษณุ กล่าวว่า ขอไม่ตอบ แต่พ.ร.ป.พรรคการเมืองไม่ได้เขียนไว้จริง เพราะตามมาตรา 56 ระบุว่าหัวหน้าพรรคออกใบรับรองให้แก่สมาชิก ซึ่งหัวหน้าพรรคมีลักษณะต้องห้ามอะไรเยอะ และอิงกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ที่เกี่ยวกับบุคคลต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิ์รับเลือกตั้งเป็นส.ส. ซึ่งมาตรา 93 มี (1)-(18) ขณะที่มาตรา 98 (3) เป็นกรณีเดียวเรื่องข้อห้ามการถือหุ้นสื่อ และมาตรา 98 (3) ไม่นำมาใช้กับหัวหน้าพรรค จึงไม่มีข้อห้ามในเรื่องการถือหุ้น สมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรคถือหุ้นสื่อได้ หัวหน้าพรรคซึ่งเป็นประธานกรรมการบริหารพรรคถือหุ้นสื่อได้ แต่ผู้สมัครส.ส.ถือหุ้นสื่อไม่ได้ รัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีถือหุ้นสื่อไม่ได้ ว่าที่นายกฯ ที่อยู่ในบัญชีพรรคการเมืองถือหุ้นสื่อไม่ได้ ก็มีแค่นี้ ส่วนข้อบังคับพรรค ไปเขียนอะไรออกมาอีกนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องไปวินิจฉัย แต่ตนไม่ตอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหมายความว่าพรรคก้าวไกลออกข้อบังคับพรรคเข้มข้นกว่ากฎหมายพรรคการเมือง โดยยึดรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ทั้งมาตรา ถือว่าเป็นเสรีภาพ และอาจต้องรับผลกระทบที่ตามมาด้วยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ก็เป็นอย่างนั้นแหละ ที่พูดๆมา ก็วนอยู่ตรงนี้” เมื่อถามย้ำว่าเพราะพรรคก้าวไกลเขียนข้อบังคับให้เข้มข้นเองใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ใช่
เมื่อถามถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ร้องนายพิธาว่าขาดคุณสมบัติการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วย มองอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ และไม่รู้เรื่องจริงๆ