‘อนุทิน’ บอก ใจไม่ถึงพอ ชิงจังหวะสงคราม เอาอธิปไตย-ชีวิตทหารแลกคะแนนเสียงให้ตัวเอง ไล่ไปอ่านคอมเม้นต์ ‘ธนาธร’ โว หาก ‘พิธา’ ได้เป็นนายกฯ ไทย-เขมร ไม่มาถึงจุดนี้ บอกกลัวแคนดิเดตทุกพรรค ส่วน ‘ภูมิใจไทย’ ยึดสำนวนช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม ตอนนี้ตอบรับแค่คนเดียว “ขออย่ามองโลกในแง่ร้าย ผมยังใจไม่ถึงพอที่จะเอาอธิปไตยของบ้านเมือง หรือเอาชีวิตของพี่น้องทหารของประชาชนมาแลก เพื่อให้ตัวเองได้คะแนนเสียงหรือได้ประโยชน์ คิดแบบนี้ไม่ถูก”
วันที่ 16 ธ.ค.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย หลังพรรคเพื่อไทยชิงเปิดตัวไปแล้ววันนี้ ว่า ยังมีเวลาอยู่
เมื่อถามว่า นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ตอบรับหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังคุยกันอยู่ แต่ตอนนี้มีตอบรับเพียงคนเดียวคือตนเอง
ส่วนที่วันนี้พรรคเพื่อไทยเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบทั้ง 3 คน นายอนุทินกล่าวว่า ก็แสดงความยินดีกับทั้ง 3 คนด้วย ซึ่งตนรู้จักทั้ง 3 ท่าน อย่าง นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ก็รู้จัก เคยหารือปรึกษาท่าน สมัยตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถสูงมาก
เมื่อถามว่า ตอนนี้แต่ละพรรคเปิดแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีออกมาแล้ว และของพรรคภูมิใจไทยจะช้าไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนก็ยึดถือคติ ซึ่งนักข่าวถามต่อว่า ช้าๆได้พร้าเล่มงามใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีจึงตอบว่า อืม เขาตอบแทนเเล้ว
เมื่อถามว่า มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอื่นคนไหนน่ากลัวหรือไม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทย นานอนุทินส่ายหน้า ก่อนจะตอบว่า ถามแล้วตอบยาก กลัวทุกคนล่ะครับ
เมื่อถามต่อว่า กลัวเด็กรุ่นใหม่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า กลัวหมดละครับ
ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่า พรรคภูมิใจไทยคาดหวัง 200 ที่นั่ง นายอนุทิน ย้อนถามว่า ใครรายงาน ไม่ใช่ตน พร้อมยืนยันว่า เราทำดีที่สุด เท่าไหร่ก็เท่านั้น ประชาชนเป็นคนตัดสิน เราก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด เหมาะสม มีความรู้ความสามารถ ถามมา 6 ปี คำตอบก็เหมือนเดิม
เมื่อถามว่า อยากได้สส.บัญชีรายชื่อเท่าไร นายอนุทิน กล่าวว่า อยากได้ 500 แต่ถ้าทำได้เท่าไหร่ก็อีกเรื่องหนึ่ง อยู่ที่ประชาชน ความอยากก็อยากได้เยอะ แต่ความเป็นจริงเราต้องทำการบ้านของเราให้ดี เลือกคนให้ดี ทำนโยบายให้ดี สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และประชาชนเป็นคนตัดสินใจ ผมก็สไตล์แบบนี้
เมื่อถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้พรรคภูมิใจไทยใหญ่ขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า ดูแล้วการเตรียมเลือกตั้งครั้งหน้า องค์ประกอบต่างๆ ไปในแนวโน้มที่พรรคจะใหญ่ขึ้น แต่อยู่ที่ประชาชนจะเลือกหรือไม่
เมื่อถามถึง จุดขายของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายอนุทิน กล่าวว่า จุดขายของพรรค คือการทำงานตอบสนองคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น เน้นในเรื่องของความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การเปิดกว้างให้มีที่ยืนในนานาชาติ ให้ความมั่นใจว่าประเทศไทยสามารถที่จะเป็นที่ที่มาท่องเที่ยวมาลงทุน สร้างรายได้ ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสหลายด้าน
เมื่อถามว่า นายอนุทินได้วางกลไกหลายอย่าง ถ้าได้กลับมาจะได้ทำต่อให้ดีขึ้น หรือไม่นายอนุทินกล่าวว่า เราได้ทำในสิ่งที่พูดแล้วทำ ก็ยังไม่มีตรงไหนที่คั่งค้าง ส่วนจะเป็น “พูดแล้วทำพลัส” หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า จะพลัสหรือไม่พลัสก็แล้วแต่
เมื่อถามถึงความคาดหวัง สส. กทม. นายอนุทิน กล่าวว่า การเป็นพรรคการเมือง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราส่งให้ครบทุกเขต ถ้าแพ้คน ก็ยังหวังว่าจะได้พรรค
เมื่อถามว่า ถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทยได้ที่ 2 จะชิงจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า อย่าเพิ่งคิดยาว ยังไม่ได้สมัคร สส. เลย
เมื่อถามว่าหลายคนวิเคราะห์ให้พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคอันดับ 1 จะบอกได้หรือไม่ว่า ทำไมประชาชนต้องเลือก นายอนุทินกล่าวว่า มันไม่มีที่ประชาชนต้องเลือก แต่ถ้ามั่นใจว่าทำงานให้ท่านได้ ภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ การได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนดีใจภูมิใจอยู่เงียบๆ ว่า การเข้ามาทำงานของตน ทุกคนรู้วันมาและวันไปอย่างชัดเจน ทุกฝ่ายข้าราชการประจำ กองทัพ ฝ่ายภาคเอกชน องค์กรอิสระ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้รู้สึกว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากใคร การขับเคลื่อนประเทศ แม้จะมีระยะเวลาเพียง 3-4 เดือน แต่ก็สามารถขับเคลื่อนประเทศไปได้มากพอสมควร ทั้งระยะยาว การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เรื่องการปกป้องอธิปไตยของประเทศ เราทำด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายเป็นอย่างดี
เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่า พรรคภูมิใจไทยชิงจังหวะสงคราม เกาะกระแสชาตินิยม สร้างคะแนนเสียงให้ตัวเอง นายอนุทิน หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า ขออย่ามองโลกในแง่ร้าย ตนยังใจไม่ถึงพอที่จะเอาอธิปไตยของบ้านเมือง หรือเอาชีวิตของพี่น้องทหารของประชาชนมาแลกเพื่อให้ตัวเองได้คะแนนเสียงหรือได้ประโยชน์ คิดแบบนี้ไม่ถูก
เมื่อถามว่า หากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาลครั้งหน้า ปัญหาชายแดนจะจบอย่างสิ้นเชิงใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็พยายามทำให้มันจบโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกมาบอกว่า หากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะไม่เกิดปัญหาชายแดนเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีหัวเราะก่อนจะบอกว่า “ลองไปเปิดคอมเม้นดู”
ส่วนกรณีค่าเงินบาทแข็งตัวสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปีครึ่ง ได้ให้นโยบายอย่างไรบ้าง เนื่องจากกระทบการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว นายอนุทิน กล่าวว่า ได้บอกนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้หารือกับแบงค์ชาติ



















