สสว.เปิดโพลสำรวจเอสเอ็มอีไตรมาส 2/66 พบผู้ประกอบการสัดส่วน 59.7% มีหนี้สินเพิ่ม รายรับไม่พอรายจ่าย ส่วนใหญ่กู้เงิน เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนกิจการ
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้ทำการสำรวจผู้ประกอบการ SME เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านหนี้สินกิจการของ SME ไตรมาสที่ 2/66 โดยสอบถามผู้ประกอบการ จำนวน 2,691 ราย ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 17-27 มิถุนายน 2566 พบว่า ผู้ประกอบการ SME 59.7% มีภาระหนี้สิน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ที่อยู่ที่ 53.4%
โดยมีวัตถุประสงค์หลักของการกู้ยืมเพื่อนำมาใช้หมุนเวียนในกิจการ รองลงมา คือการลงทุนในกิจการ เพื่อการซ่อมแซมสถานประกอบการ ขณะเดียวกันพบว่ากลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะธุรกิจภาคการค้าและภาคการบริการมีสัดส่วนการกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินทุนนอกระบบสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการกู้ยืมจากเพื่อนหรือญาติพี่น้องมากที่สุด เนื่องจากแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินมีวิธีการและกระบวนการพิจารณาที่เข้มงวด
ทั้งนี้พบว่า ผู้ประกอบการ SME สัดส่วน 35.6% มีภาระหนี้สินอยู่ในช่วง 50,000 ถึง 100,000 บาท
ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 33.2% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจรายย่อย โดยมีระยะเวลาสัญญาเงินกู้ในช่วงไม่เกิน 7 ปี ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมเงินของ SME ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะ ธุรกิจรายย่อยยังแบกรับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าธุรกิจขนาดอื่น ๆ โดยขยับขึ้นมาอยู่ในช่วง 9-12% จาก 6-8% ในช่วงไตรมาสก่อน
โดยสถานการณ์ในไตรมาสที่ 2/66 ผู้ประกอบการ SME กว่า 55.4% ยังคงเผชิญกับปัญหาในการชำระหนี้ ด้วยเหตุที่รายได้น้อยกว่ารายจ่าย สภาพคล่องลดลงและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ 57.8% ยังสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดสัญญา จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว แต่ยังพบว่าผู้ประกอบการ SME 42.4% เริ่มประสบปัญหาการผิดเงื่อนไขการชำระหนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและขนาดย่อม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ปัญหาสำคัญที่ผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่ยังคงเผชิญ คือ ปัญหาด้านอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการประกอบธุรกิจ รองลงมา คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ที่เป็นสถาบันการเงินซึ่งมีขั้นตอนการยื่นกู้ยุ่งยาก และสิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือมากที่สุด คือ การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ รองลงมา คือ ต้องการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับธุรกิจรายเล็ก และการลดขั้นตอนหรือเงื่อนไขในการยื่นขอสินเชื่อ