”ศรีสุวรรณ” ชี้กลุ่มเพื่อนการ์ด WEVO ชิงตัวผู้ถูกควบคุมมีโทษหนักจำคุกไม่ต่ำกว่า 20 ปี
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่ากรณีที่มีการนัดชุมนุมของกลุ่ม REDEM ที่ห้าแยกลาดพร้าวแล้วเคลื่อนตัวไปที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาถิเษกเมื่อค่ำวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมการ์ดวีโว(Wevo) จำนวนหนึ่ง ที่ห้างย่านรัชโยธิน ก่อนตำรวจจะพาตัวผู้ถูกควบคุมตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา
ต่อมารถควบคุมผู้ต้องหาคันหนึ่งถูกกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายทำลาย และมีการชิงตัวผู้ถูกควบคุมตัวระหว่างทาง ส่วนรถควบคุมตัวผู้ต้องหาอีกคันหนึ่งสามารถขับต่อไปได้ มีรายงานว่าตำรวจได้รับบาดเจ็บ และรถควบคุมผู้ต้องหาถูกทุบทำลายได้รับความเสียหายนั้น
การที่กลุ่มการ์ดวีโวถูกจับกุมตัวถึงแม้ตำรวจจะยังมิได้แจ้งข้อกล่าวหาก็ถือได้ว่าเป็นการถูกคุมขังแล้ว ตาม ป.อ.มาตรา 1(12) (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 772/2536) การที่กลุ่มเพื่อนสมาชิกการ์ดวีโว้มาช่วยชิงตัวในระหว่างถูกคุมขังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยกระทำความผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ย่อมเข้าข่ายความผิดตาม ป.อ.มาตรา 191 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ที่หลุดพ้นจากการถูกคุมขังไปนั้นมีมากกว่า 3 คนขึ้นไป ผู้ที่ช่วยเหลือต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี ปรับตั้งแต่ 1 หมื่นบาทถึง 1.4 แสนบาท และการชิงตัวในครั้งนี้ เป็นการใช้กำลังขู่เข็ญและประทุษร้ายด้วย ย่อมมีโทษหนักกว่าอีกเท่าตัว
อีกทั้ง ยังมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ตาม ป.อ.มาตรา 138 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการต่อสู้หรือขัดขวางนั้น ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งการกระทำดังกล่าวร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อ.มาตรา 140
นอกจากนั้น ยังมีการทุบทำลายรถควบคุมผู้ต้องหา ซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์สินของทางราชการที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อ.มาตรา 360 ทวิ รวม ๆ อัตราโทษจำคุกขั้นต่ำแล้วจะไม่น้อยกว่า 20 ปี เลยทีเดียว แม้จะสู้คดีว่ามิได้กระทำความผิดก็ตาม เพราะตำรวจจะหาพยานหลักฐานไม่ได้ เพราะบริเวณแยกรัชโยธิน หน้าเมเจอร์ มีกล้อง CCTV มากยิ่งกว่าตาสับปะรด
อีกทั้งมีตำรวจนอกเครื่องแบบคอยเก็บหลักฐานอยู่เต็มพื้นที่ เมื่อกล้าที่จะฝ่าฝืนกฎหมาย ก็ต้องกล้าที่จะเผชิญกับบทลงโทษตามครรลองของกฎหมาย เมื่อถึงเวลานั้นอย่ามาโวยวายว่าถูกรังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรมมิได้ เพราะกฎหมายต้องเป็นกฎหมาย รอรับหมายเรียกได้เลย