หน้าแรกHighlight“รทสช.”ติวเข้มเสริมศักยภาพผู้สมัครสส. ชูนโยบายเศรษฐกิจใหม่-ปฏิรูปพลังงาน

“รทสช.”ติวเข้มเสริมศักยภาพผู้สมัครสส. ชูนโยบายเศรษฐกิจใหม่-ปฏิรูปพลังงาน

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

พรรครวมไทยสร้างชาติเปิดเวทีอบรมเสริมศักยภาพว่าที่ผู้สมัคร สส. จากทั่วประเทศ วางแนวนโยบายเศรษฐกิจใหม่ ปฏิรูปพลังงาน–เกษตร พร้อมเน้นการสื่อสารเอกภาพและความโปร่งใสตามกติกาเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่โรงแรมเลอ มอนเต้ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค จัดกิจกรรมอบรมสัมมนาว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคบางส่วนจากทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมและเสริมศักยภาพก่อนลงสนามสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคว่า แกนหลักสำคัญที่สุดคือการยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และไม่ว่านโยบายของพรรคจะมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ของประเทศอย่างไร อุดมการณ์ในการปกป้องสถาบันหลักของชาติจะยังคงสอดแทรกอยู่ในทุกภารกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำว่า อีกหัวใจสำคัญในการทำงานของพรรคคือแนวคิด “สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” เนื่องจากสิ่งที่ประชาชนคาดหวังมากที่สุดคือผู้แทนที่พร้อมแก้ไขปัญหาและลงมือช่วยเหลืออย่างจริงจัง

นายพีระพันธุ์ ระบุด้วยว่า พรรคต้องการบุคลากรที่เข้ามาทำงานเพื่อแก้ปัญหาประเทศ ไม่ใช่เข้ามาเล่นการเมือง และพรรครวมไทยสร้างชาติมุ่งมั่นที่จะแก้ไขวิกฤตของชาติอย่างเด็ดขาด เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับพลิกโฉมประเทศ

ด้าน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจว่า ประเทศไทยถูกแช่แข็งมากว่า 20 ปี จากการขาดอุตสาหกรรมใหม่ที่เป็น New S-Curve อาทิ อุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และอุตสาหกรรมการเกษตรเชิงโอลีโอเคมี ซึ่งทั้งหมดจำเป็นต้องอาศัยพลังงานสะอาด และต้องเกิดจากการปฏิรูปโครงสร้างพลังงานที่ยังผูกขาดอยู่กับกลุ่มทุน พร้อมชูนโยบายลบประวัติเครดิตบูโร เพื่อแก้ปัญหาการแช่แข็งผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและประกอบอาชีพได้

ขณะที่ นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงนโยบายยกระดับภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเรือธงของพรรคว่า พรรคจะลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรด้วยการเร่งแก้ปัญหาพลังงาน สนับสนุนนโยบายโซลาร์เสรี ควบคู่กับการดูแลปัจจัยการผลิตทั้งที่ดิน ปุ๋ย และการจัดการน้ำ รวมถึงการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตผ่านการปฏิรูปสหกรณ์การเกษตร และการสร้างกลไกตลาดที่สมดุล โดยให้รัฐทำหน้าที่เป็นคนกลาง ทั้งการสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร และการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรง เพื่อสร้างความเป็นธรรมและความยั่งยืนให้กับภาคเกษตร

สำหรับกิจกรรมในช่วงบ่าย เป็นการจัดเวิร์กช็อปยกระดับทักษะการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ และเทคนิคการนำเสนอนโยบายในแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างมาตรฐานการสื่อสารของพรรคให้เป็นเอกภาพทั่วประเทศ ขณะที่ในวันที่ 19 ธ.ค. จะมีการอบรมให้ความรู้ด้านกฎหมายและการเงินที่ใช้ในการเลือกตั้ง เพื่อเน้นย้ำความถูกต้องและโปร่งใสตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนปิดท้ายด้วยการติวเข้มเทคนิคการหาเสียงเชิงรุก เพื่อเตรียมความพร้อมในการลงพื้นที่อย่างเต็มรูปแบบ

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img