ผู้ว่าฯสมุทรสาครออกจากรพ.ศิริราชแล้ว เผยช่วงเวลาวิกฤติที่ไม่รู้ตัว 42 วัน ขณะที่หมอระบุว่าเป็นผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจนานที่สุด
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่โรงพยาบาลศิริราช ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล พร้อมด้วยนายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครและคณะแพทย์ ร่วมกันแถลงข่าวถึงเข้ารับการรักษาในรพ.ศิริราช เนื่องจากมีการติดเชื้อโควิด และเข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 2563โดยวันนี้แพทย์ได้อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน
ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ เปิดใจว่า ตัวเองอยู่ที่ศิริราช 82 วัน เป็นช่วงเวลาที่ไม่รู้ตัวเลย 42 วัน ลองคิดเอาว่า คนที่ไม่รู้สึกตัวเลย 42 วัน สามารถพูดคุยกับทุกคนได้ ตัวเองยังแปลกใจว่า เราเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ขอบคุณศิริราช ที่ดูแลอย่างดี นับเป็นความอนุเคราะห์ของศิริราชที่ดูแลคนไข้ที่อาการแย่ และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์เมื่อหายดีแล้วพร้อมกลับไปทำงานเพื่อจังหวัดสมุทรสาครต่อไป
“ความรุนแรงของโควิด ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง สามารถเกิดความรุนแรงขึ้นได้ ไม่น่าเชื่อว่า คนที่ไม่รู้สึกตัวเลย 42 วัน จะมีชีวิตอยู่ได้ ขอบคุณศิริราช ขอบคุณกำลังใจจากทั้งประเทศ ประชาชนสมุทรสาคร และอีกหลายจังหวัดที่ผมเคยทำงาน ขอบคุณแพทย์ พยาบาลที่ดูแลเป็นอย่างเดิน ทำให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง และรู้ว่าคนเราต้องทำทัน ทีเราไม่รู้ตัวว่าจะตายวันไหน”นายวีระศักดิ์ กล่าว
ขณะที่รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ เปิดเผยว่า เวลารวมในไอซียู คือ 34 วัน หลังผ่านช่วงวิกฤตจะฟื้นตัวได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวคนไข้ ซึ่งท่านผู้ว่า มีความมุ่งมั่นที่จะฟื้นตัว ความสำเร็จเกิดจากหลายๆ ส่วน
ขณะที่ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า หลังท่านผู้ว่าติดเชื้อ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของเอ็กซเรย์ปอด ทุกการรักษาจะถูกถอดบทเรียน ซึ่งหลังจากนั้นมีการให้ยาต้านไวรัสอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีเหตุบังเอิญแต่เป็นการประสานงานกัน โดยผู้ว่าฯเป็นผู้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจนานที่สุดของผู้ป่วยศิริราชคือ 42 วัน ส่วนสำคัญที่ทำให้มีกำลังใจ คือ เสียงคุณชุติพร ที่ทำให้รู้สึกว่าท่านต้องกลับสมุทรสาครให้ได้ โดยเมื่อท่านผู้ว่า รู้สึกตัวดีก็ได้รายงานสถานการณ์สมุทรสาคร ซึ่งเชื่อว่า คนสมุทรสาคร ได้รอฟังข่าวและได้เห็นท่านผู้ว่า อยากให้ความร่วมมือกับจังหวัดผู้ว่าจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
“สำหรับการทำงานอยากขอไม่ให้ลงพื้นที่ก่อน เพราะร่างกายยังอ่อนแออยู่ ส่วนคนที่จะมาเยี่ยมก็ขอให้อยู่ห่างๆ เพราะไม่รู้ว่า ใครมีเชื้ออะไรหรือไม่ การที่ติดเชื้อซ้ำจะทำให้มีความเสี่ยงได้ คนที่เข้าพบทุกคนขอให้ใส่หน้ากาก ถ้าไม่จำเป็นขอให้หลีกเลี่ยง จนกว่าภูมิคุ้มกันจะกลับมาใกล้ปกติมากๆ” ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
