‘แบงค์ชาติ’ คุมเข้มด่วน! เงินทุนไหลเข้า–ออก หลังค่าเงินบาทผันผวนหนัก สั่งทุกธนาคารตรวจเอกสารเข้ม ธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ เริ่ม 29 ธ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.68 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกหนังสือเวียนถึงผู้จัดการธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมถึงสถาบันการเงินของรัฐ อาทิ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อซักซ้อมแนวปฏิบัติในการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศกับลูกค้าอย่างเข้มงวดมากขึ้น
ธปท. ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีเงินตราต่างประเทศไหลเข้า-ออกประเทศในปริมาณสูงผิดปกติ ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญ จึงขอความร่วมมือจากนิติบุคคลรับอนุญาตในการตรวจสอบเอกสารและหลักฐานแหล่งที่มาของเงินอย่างละเอียด โดยเฉพาะกรณีลูกค้าที่เป็นบุคคลมีถิ่นที่อยู่ในประเทศ และมีการรับซื้อหรือรับฝากเงินตราต่างประเทศจากต่างประเทศ เพื่อให้การทำธุรกรรมเป็นไปตามวัตถุประสงค์ด้านการค้าและการลงทุนอย่างแท้จริง
สำหรับการรับซื้อเงินตราต่างประเทศที่เป็นธุรกรรมทันที หากเป็นเงินตราที่ไม่เกี่ยวข้องกับค่าทองคำ และธนบัตรเงินตราต่างประเทศ และมีมูลค่าตั้งแต่ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า นิติบุคคลรับอนุญาตต้องเรียกเอกสารจากลูกค้าเป็นรายธุรกรรมในวันทำธุรกรรม หรือไม่เกินวันครบกำหนดชำระเงิน
แม้ในกรณีลูกค้าที่เป็นธุรกรรมปกติ รู้จักตัวตนดี และมีการทำ KYC และ CDD อย่างต่อเนื่อง จะสามารถใช้กระบวนการ Know Your Business (KYB) ได้ แต่ ธปท. เน้นย้ำว่า หากธุรกรรมมีวัตถุประสงค์ใน 4 กลุ่มต่อไปนี้ จะไม่สามารถใช้ KYB ได้ และต้องเรียกเอกสารทุกกรณี ได้แก่
1. เงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย
2. ค่าสินทรัพย์ดิจิทัล
3. เงินทุนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินลงทุนในเครือ/สาขา เงินลงทุนในหลักทรัพย์ เงินกู้ เงินให้กู้ยืม และเงินส่วนต่างจากธุรกรรมอนุพันธ์
4. วัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่ค่าสินค้า บริการ รายได้ เงินโอน บริจาค เงินลงทุน ธนบัตร และเงินฝาก
ธปท.ระบุด้วยว่า กรณีธุรกรรมเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ธนาคารต้องเรียกเอกสารที่แสดงแหล่งที่มาของสินทรัพย์ดิจิทัล หรือแหล่งที่มาของเงินที่นำไปซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบและการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์
สำหรับเงินตราต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับค่าทองคำ ธนาคารต้องเรียกเอกสารยืนยันการขายทองคำในต่างประเทศเป็นรายธุรกรรม รวมถึงเอกสารเรียกเก็บเงินและใบขนทองคำภายในกรอบเวลาที่กำหนด
ธนบัตรเงินตราต่างประเทศตั้งแต่ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า ต้องมีเอกสารแสดงการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในประเทศอย่างชัดเจน
ธปท. ระบุว่า การรับฝากเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) ของผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับการรับซื้อเงินตราต่างประเทศแบบธุรกรรมทันทีในทุกกรณี ส่วนธุรกรรมล่วงหน้าให้ยึดตามหลักเกณฑ์เดิม แต่หากเข้าข่าย 4 วัตถุประสงค์ข้างต้น ก็ยังต้องเรียกเอกสารและไม่สามารถใช้ KYB ได้
มาตรการทั้งหมดนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป พร้อมกำชับให้สถาบันการเงินแจ้งลูกค้าให้ทราบโดยทั่วกัน



















