วันพุธ, พฤศจิกายน 27, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSรัฐบาล –ผู้ว่า ธปท.เห็นชอบต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ฟื้นกำลังซื้อให้ GDP โต 2.5
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

รัฐบาล –ผู้ว่า ธปท.เห็นชอบต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ฟื้นกำลังซื้อให้ GDP โต 2.5

“พิชัย”เผยสรุปผลประชุม ครม.เศรษฐกิจ ชี้ กระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติมีความเห็นตรงกัน ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ เล็งหารือเป็นระยะ ให้เกิดความเข้าใจตรงกันเรื่องดอกเบี้ยนโยบาย

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 27 พ.ค.67 ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2567 ร่วมกับรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรงวัฒนธรรม น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ประธานผู้แทนการค้าไทย นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าร่วมการประชุมด้วย


ภายหลังการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยสาระสำคัญถึงการประชุมสรุปดังนี้



นายพิชัย ชุณวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมมีการมาพูดคุยกันว่าปัญหาเกิดจากอะไร ซึ่งนำปัญหาทั้งหมดมาดูและเริ่มว่าจะต้องแก้ไขอะไรบ้างในเชิงโครงสร้าง ระยะยาว ระยะปานกลาง และระยะเฉพาะหน้า โดยตัวเลขจีดีพีของประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ จากการเปรียบเทียบย้อนหลัง 10 ปี ซึ่งเมื่อดูศักยภาพเมืองไทย ก็อยู่ในที่สภาพภูมิประเทศที่ดี จึงไม่น่าอยู่ในลำดับนี้ ต้องอยู่ที่ 3.5 ขึ้นไป และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านกว่า 10 ประเทศ ก็สูงกว่าเราทั้งนั้น จึงเป็นเครื่องยืนยันว่าเศรษฐกิจเรากำลังมีปัญหา

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ระบบเศรษฐกิจผลักดันด้วยระบบการผลิต ซึ่งจะนำมาซึ่งการจ้างงาน การบริโภค เป็นวงจรไป เรามีการใช้กำลังการผลิตเมื่อเดือน มี.ค. อยู่ที่ 57.2% จึงเกิดคำถามว่าทำไมถึงผลิตเท่านี้ เมื่อย้อนไปตัวเลขการผลิตก็ต่ำมาเรื่อย ๆ จนเจอว่าผู้บริโภคไม่ซื้อ เนื่องจากไม่มีรายได้ ไม่มีกำลังซื้อ จึงพันกันมาเป็นวงจร

ดังนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมาคุยตั้งแต่อุตสาหกรรมการเกษตร เรื่องทั่วไป เทคโนโลยี รถยนต์ รวมถึงที่ไม่เกี่ยวกับการผลิตคือภาคท่องเที่ยว พลังงาน เมื่อดูทั้งหมด ดูว่าอันไหนทำงานได้ดี คือเรื่องการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นขึ้นมา และอีกเรื่องคืออุตสาหกรรม โดยผู้ค้ารายย่อยไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน แต่ผู้ค้ารายใหญ่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและยังมีสภาพคล่องได้

นายพิชัย ระบุว่า วันนี้สิ่งที่เห็นแน่ ๆ คือการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องให้คนเข้าถึงแหล่งเงินทุนเร่งด่วน ส่วนภาคการผลิตต้องดูหลายอย่าง ในระยะยาวจะมีการเสนอมา เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหลายกระทรวง ส่วนงานเฉพาะหน้า ผู้ว่าฯ ธปท. เห็นปัญหาเศรษฐกิจ เห็นว่าการกระตุ้นต้องมี และย้ำว่า รัฐบาลเห็นอยู่แล้ว จึงพยายามหางบประมาณมากระตุ้น ก็ดูว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป อยู่ในวิสัยที่จัดการได้ อยู่ในวินัยทางการเงินการคลัง ในกรอบที่ทำได้ เรื่องเงินเร็วต้องรีบทำเลย ให้ทุกคนตื่นฟื้นมา ทางธนาคารภาครัฐจะมีหลายโครงการ รัฐต้องใส่เงิน จัดโครงสร้างใหม่ให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ ส่วนพาณิชย์ต้องมีความยืดหยุ่น มาจัดการปรับปรุงโครงสร้างให้แข็งแรง ให้มาช่วยเข้าถึงแหล่งเงินกู้และต้นทุนถูกลง และเรื่องที่เห็นตรงกันคือค่าเงินเฟ้อต่ำ ของถูกไปสำหรับผู้ผลิต แต่คนซื้อก็มองอีกแบบ เราจึงจำเป็นต้องหาตรงกลาง

นายพิชัย ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าอะไรที่ทำได้ทำเลยและให้มารายงานความคืบหน้าในสองสัปดาห์ซึ่งในวันนี้ได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น ได้มองภาพตรงกัน ส่วนจะมีการออกมาตรการผลักดันให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นหรือไม่ นายพิชัย ระบุว่า ต้องเร่งช่วยเหลือคนส่วนล่างให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและและจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ไปพร้อมกันด้วย อย่าลืมว่าอนาคตของประเทศไทยคืออุตสาหกรรมการเกษตรต้องผลักดันให้สินค้าเหล่านี้มีราคาสูงขึ้น ซึ่งจะต้องทำให้การผลิตต่อไร่มีคุณภาพ โดยต้องดูแก้ปัญหาเรื่องการจัดการน้ำ คุณภาพดิน พร้อมย้ำว่าต้องแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างก่อน

ส่วนความมั่นใจว่าตัวเลขจีดีพีในปีนี้ จะเกิน 2.5ได้หรือไม่ นายพิชัย ระบุว่า เราต้องทำทุกวิถีทาง แต่ตนเองตอบไม่ได้ และตนเองคงไม่พอใจที่ตัวเลขแค่ 2.5 อย่างแน่นอน ส่วนมาตรการระยะกลางและระยะยาว จะมาเสริมเรื่องอุตสาหกรรม ซึ่งการเดินสายต่างประเทศทำให้เข้าใจผู้ลงทุน แล้วเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งนี้พบว่าคนไทยมีความรู้เยอะแต่ขาดประสบการณ์ ซึ่งอาจต้องเพิ่มการฝึกงานจริงอย่างน้อย 1 ปี

นายเผ่าภูมิ  โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า มีการเสนอมาตรการจากธนาคารแห่งประเทศที่เห็นตรงกับกระทรวงการคลัง ในมาตรการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. จะช่วยให้ปัญหาที่ทำให้ธนาคารต่างๆ ไม่กล้าปล่อยสินเชื่อ เพราะเกรงว่าจะมีความเสี่ยง บสย.จะเข้ามาค้ำประกันสินเชื่อให้ผ่านจากงบประมาณรัฐบาล เข้ามาดูดซับความเสี่ยง SME ออกไป และทำให้ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับ SME ได้ โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องมีการพิจารณาการค้ำประกันสินเชื่อหรือปล่อยสินเชื่อให้กับ SME รายใหม่เป็นอันดับแรก ส่วนวงเงินค้ำประกันขอพิจารณาเพิ่มเติม แต่ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า เป็นเรื่องสำคัญมากจึงอาจมีการพิจารณาเพิ่มวงเงิน โดยจะนำเสนอเข้าครม.ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้

นอกจากนี้ที่ประชุมได้สั่งการให้กระทรวงการคลังเร่งการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และเม็ดเงินงบประมาณ ในส่วนสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ได้รับโจทย์ให้ไปเร่งรัดการปล่อยสินเชื่อที่เข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น และนายกฯ มีข้อสั่งการไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มีมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง เข้ามาเสริมช่วงโลว์ซีซันท่องเที่ยวของไทย และกระทรวงการคลังจะช่วยสนับสนุนท่องเที่ยวในเมืองรอง

นายเผ่าภูมิ กล่าวถึง เรื่องกรอบเงินเฟ้อว่า เราเห็นถึงความจำเป็น เพราะเงินเฟ้อมีปัญหา 2 มติ คือ เรื่องกรอบเงินเฟ้อที่ไม่สะท้อนสภาวะเศรษฐกิจจริง และเรื่องกรอบเงินเฟ้อที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยไม่พยายามผลักดันเงินเฟ้อเข้าไปอยู่ในกรอบ จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันต้องพิจารณา

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ไม่ได้มีการตั้งเป็นคณะกรรมการ ครม. เศรษฐกิจเหมือนเช่นอดีตเพื่อความคล่องตัวในการทำงานและขับเคลื่อนง่ายขึ้น พร้อมทั้งยังให้ทุกหน่วยงานเตรียมการบ้านมาเสนอปัญหาและการขับเคลื่อนพร้อมโยนโจทย์ ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าจะกลับมาคุยรายละเอียดของแต่ละหน่วยงานเพิ่มเติมว่ามีอะไรที่ทำไปแล้วแล้วต้องทำเพิ่ม เพื่อคิดกลไกในการขับเคลื่อน

สำหรับกระทรวงการคลังมีมาตรการทางภาษีรองรับคาร์บอนเครดิต และการจัดเก็บภาษีบริษัทข้ามชาติที่ต้องมีการปรับแก้กฎหมายซึ่งนำส่งครม. แล้ว เร็วๆ นี้จะเข้าสู่สภาเพื่อขับเคลื่อนต่อไป ส่วนเรื่องดอกเบี้ยจะลดหรือไม่ต้นตอบไม่ได้เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจ ครม. แต่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายซึ่งก็คือดิจิทัลวอลเล็ต ระหว่างนี้จะต้องมีกลไกมาขับเคลื่อนซึ่งกระทรวงต่างๆ ก็รับกลับไปวางแผนเพื่อกลับมาหาหรือใหม่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img