‘อคส.’ เปิดซองเสนอราคา 6 บริษัท ยื่นประมูลข้าว 10 ปี โครงการจำนำข้าว ‘วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด’ เสนอสูงสุดทั้ง 2 คลัง รวมมูลค่ากว่า 286 ล้านบาท เฉลี่ยกิโลละ 19.07 บาท มากกว่าที่ ‘ภูมิธรรม’ คาดไว้ เตรียมประกาศผู้ชนะประมูล 21 มิ.ย.นี้
วันที่ 17 มิ.ย.67 การยื่นซองเสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1 / 2567 เป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ประมาณรวม 15,000 ตัน ใน 2 คลัง จังหวัดสุรินทร์ โดยวันนี้ องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ได้เปิดให้ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ ทั้งหมด 7 ราย ได้ยื่นซองเสนอราคา ตั้งแต่ 9.00 – 12.00 น. มีบริษัทที่มายื่นซอง 6 ราย
หลังจากเปิดซอง พบว่า ในคลังสินค้า บริษัท พูนผลเทรดดิ้ง จำกัด หลัง 4 มีปริมาณข้าว รวม 3,356 ตัน มีผู้ยื่นซองเสนอซื้อครบทั้ง 6 ราย ได้แก่
-บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จังหวัดกำแพงเพชร เสนอราคาประมูลที่ 64.01 ล้านบาท
-บริษัท ธนสรร ไรซ์ จังหวัดชัยนาท เสนอราคาประมูลที่ 60.4 ล้านบาท
-บริษัท สหธัญ จังหวัดนครปฐม ยื่นประมูลในราคา 62.7 ล้านบาท
-บริษัท บีเอ็นเค การเกษตร 2024 / จังหวัดนครสวรรค์ เสนอราคาประมูลที่ 53.7 ล้านบาท
-บริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อา.การเกษตร จังหวัดนครสวรรค์ เสนอราคาประมูลที่ 56.08 ล้านบาท
-บริษัท ทรัพย์แสงทอง ไรซ์ จากจังหวัดสุพรรณบุรี เสนอราคาประมูลที่ 40.9 ล้านบาท
ส่วนคลังสินค้ากลางกิตติชัย หลัง 2 ปริมาณรวม 11,656 ตัน มีผู้ยื่นซองเสนอราคา จำนวน 4 ราย ได้แก่
-บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จังหวัดกำแพงเพชร เสนอราคาประมูลที่ 222.2 ล้านบาท
-บริษัท ธนสรร ไรซ์ จังหวัดชัยนาท เสนอราคาประมูลที่ 209.8 ล้านบาท
-บริษัท บีเอ็นเค การเกษตร 2024 จังหวัดนครสวรรค์ เสนอราคาประมูลที่ 186.5 ล้านบาท
-บริษัท ทรัพย์แสงทอง สุพรรณบุรี เสนอราคาประมูลที่ 182.04 ล้านบาท
ดังนั้น ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดทั้ง 2 คลัง คือ บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จังหวัดกำแพงเพชร รวมราคาประมูลทั้ง 2 คลัง กว่า 286 ล้านบาท เฉลี่ยประมูลไปในราคากิโลกรัมละ 19.07 บาท
คณะทำงานรับ-เปิดซองและต่อรองราคาข้าวในสต๊อกของรัฐ ได้ต่อรองราคา เพื่อให้ได้ราคาประมูลที่สูงขึ้นอีก ทั้งนี้ จะมีการประกาศชื่อบริษัทที่ชนะการประมูล ผ่านเว็บไซต์ อคส. ภายในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ และกำหนดต้องทำสัญญาซื้อขายภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ อคส.แจ้งผลเป็นทางการ
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย้ำว่า หลังจากการเปิดซองในช่วงบ่าย จะมีกระบวนการต่อรองราคา หากทำได้เร็ว คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ ซึ่งการที่มีผู้สนใจมาซื้อข้าว ถือเป็นตัวสะท้อนได้ดีว่า ข้าวไม่ได้มีปัญหาอะไร แม้จะเก็บมานาน แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดเก็บ และผู้ซื้อเอง ก็ต้องนำไปปรับปรุงต่อ
ส่วนในเรื่องของราคา ไม่ได้กำหนดราคาขั้นต่ำ เพราะต้องการให้โอกาสผู้ประกอบการประเมินเอง และวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้ แต่จะใช้กระบวนการต่อรองเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีราคาในใจที่เหมาะสมกับความเป็นจริงของสภาพข้าว หลังจากก่อนหน้านี้มีการด้อยค่า ขายเป็นอาหารสัตว์กิโลกรัมละ 4-5 บาทเท่านั้น แต่ยังเชื่อมั่นว่าจะได้มากกว่านี้แน่นอน ซึ่งหากขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 15-18 บาท หักค่าใช้ต่างๆ แล้ว คาดว่าจะนำเงินกลับเข้ารัฐ ได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทแน่นอน
ทั้งนี้ มั่นใจว่าการขายข้าวได้จบภายในวันนี้ ถือเป็นการปิดตำนานโครงการจำนำข้าวได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นการทำงานตามหน้าที่ โดยเฉพาะการสะสางงานที่คั่งค้างอยู่ ในฐานะที่มานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์