นายกฯ ร่วมขบวนพาเหรด LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024 เฉลิมฉลองส่งท้ายวาระของการสื่อความหมายความเท่าเทียมทางสังคม ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับสิทธิความเสมอภาค พร้อมผลักดันไทยเป็นเจ้าภาพ WORLD PRIDE 2030
เมื่อเวลา 15.47 น.วันที่ 30 มิ.ย. ณ สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย) ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024 เฉลิมฉลองส่งท้ายอย่างยิ่งใหญ่เทศกาลระดับโลก “WORLD PRIDE 2024” ขบวนพาเหรดที่ยิ่งใหญ่และยาวที่สุดในเอเชียกว่า 6 กิโลเมตร ซึ่งจัดขึ้นด้วยความร่วมมือของภาครัฐ และภาคเอกชนมากกว่า 100 องค์กร โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมงาน ซึ่งมีนางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร เดอะมอลล์ กรุ๊ป และรองประธานภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ กลุ่มคู่สมรสเท่าเทียม กลุ่มนางงามระดับโลกและนานาชาติ กลุ่มนักกีฬา สื่อมวลชน ตลอดจนเหล่าศิลปินดารา นักแสดงที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ให้การต้อนรับ
ในโอกาสนี้ นายกฯ กล่าวแสดงความยินดีที่ได้รับเกียรติให้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการและปล่อยขบวนพาเหรด “LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024” ในวันนี้ งาน Pride Parade ครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคีเครือข่าย รัฐบาลให้ความสำคัญกับสิทธิเสรีภาพ และการสร้างความเท่าเทียมแก่ผู้คนทุกกลุ่มในสังคม โดยชาว LGBTQIAN+ เป็นกลุ่มคนที่รัฐบาลไม่ละเลย และตั้งใจอย่างเต็มที่ในการยกระดับสิทธิขั้นพื้นฐานให้แก่กลุ่ม LGBTQIAN+ ในวันนี้ต่างจากปีอื่น พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ได้ผ่านการพิจารณาของสภาแล้ว เป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งที่น่ายินดีของชาว LGBTQIAN+ ทุกคน
นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังพร้อมสนับสนุนให้ “เทศกาลไพรด์” เป็นงาน Festival สำคัญ ที่สามารถสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQIAN+ เป็นนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง รัฐบาลสนับสนุนให้มีการจัดงานในเทศกาลไพรด์ทั่วทั้งประเทศ เพื่อแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับสิทธิความเสมอภาค และความหลากหลายทางเพศ และจะผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพการจัดงาน “WORLD PRIDE 2030” ซึ่งยังมีอีกหลายขั้นตอน เราต้องช่วยผลักดันในอีกหลาย ๆ พ.ร.บ. เพื่อให้เกิดความสำเร็จ
นายกฯ ระบุว่า งาน “LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024” นอกจากจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้แก่ประเทศไทย ในด้านความเป็นมิตรต่อกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQIAN+ ทั่วโลกแล้วยังสามารถส่งต่อแนวคิดสร้างสรรค์ “ซอฟต์พาวเวอร์” (Soft Power) ของประเทศไทย ผ่านขบวนพาเหรดที่สื่อความหมาย “PRIDE” ของประเทศไทย ได้แก่ เทศกาลและประเพณีไทย แฟชั่น อาหาร สื่อเอ็นเตอร์เทนเม้นท์และกีฬา
ทั้งนี้ นายกฯ ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันจัดงาน “LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024” เพื่อให้เป็นวาระของการสื่อความหมายความเท่าเทียมทางสังคม
พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้ถ่ายภาพและโบกธงสัญลักษณ์ Pride Month ร่วมกับคณะผู้ร่วมงาน เพื่อเป็นการเริ่มปล่อยขบวนพาเหรด จากนั้น นายกฯ ได้เข้าร่วมขบวน LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024 ซึ่งเส้นทางทั้งหมดจะเคลื่อนจากสนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาศัย ผ่านเส้นทางถนนพระรามที่ 1 ย่านปทุมวัน – ศูนย์การค้าสยามพารากอน – ย่านราชประสงค์ – ย่านเพลินจิต – ย่านอโศก ไปสิ้นสุดที่อุทยานเบญจสิริ โดยขบวนพาเหรดมีขบวนหลัก 5 ขบวนของแต่ละภาคีเครือข่าย ซึ่งแต่ละขบวนความยาว 1 กิโลเมตร เป็นขบวนพาเหรดประกอบด้วยรถประเภทต่าง ๆ เช่น รถเทรลเลอร์ รถบรรทุก รถซูเปอร์คาร์ ฯลฯ กว่า 300 คัน ที่ได้รับการตกแต่งตามแนวคิดการสนับสนุนยุทธศาสตร์ SOFT POWER ในหลากหลายมิติ โดยนายกฯ ได้อยู่ในขบวนที่ 1 รถ HOP BUS เริ่มจากสนามกีฬาแห่งชาติผ่านเส้นทางพระรามที่ 1 ขาออก และได้ลงจากขบวนพาเหรดและทักทายผู้แทนภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ณ บริเวณศูนย์การค้าสยามพารากอน ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดนครราชสีมาต่อไป