นายกฯ ติดตามความคืบหน้า โครงการจัดสร้างศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ยกระดับคุณภาพการให้บริการในทุกมิติ
เมื่อเวลา 13.10 วันที่ 2 ก.ค. ณ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการจัดสร้างศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา คณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และ อสม. ให้การต้อนรับ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการจัดสร้างศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมรับฟังการบรรยายการดำเนินการจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรับชมวีดิทัศน์ความเป็นมาโครงการฯ สรุปสาระสำคัญดังนี้
จังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประตูสู่ภาคอีสาน ซึ่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลศูนย์เพียงแห่งเดียวของจังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเขตสุขภาพที่ 9 ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ และเป็นสถาบันผลิตแพทย์ แหล่งฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขทุกวิชาชีพ ดังนั้น เพื่อการยกบริการสาธารณสุขให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เกิดความเป็นธรรมในการเข้าถึงการบริการ ลดความเหลื่อมล้ำของด้านบริการสาธารณสุขระหว่างชุมชนเมืองและชนบท จึงต้องมีการพัฒนาอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง เพื่อคุณภาพและความปลอดภัยของการให้บริการด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิตประชาชน โดยการลงพื้นที่และติดตามความคืบหน้าด้านสาธารณสุขของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี จึงมีความสำคัญที่จะขับเคลื่อนนโยบายสาธารณสุข ให้เกิดความร่วมมือและบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานสุขภาพทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบบริการสุขภาพของประเทศ
ด้านนายแพทย์ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวนำเสนอแผนพัฒนาโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาว่า อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น ประกอบด้วย Trauma& Emergency center , ICU และศูนย์เปลี่ยนถ่ายอวัยวะ , แผนกผ่าตัด ศูนย์ส่องกล้อง ODS, MIS และศูนย์สุขภาพครบวงจร (CHECK UP CENTER) ดำเนินการภายใต้งบประมาณการก่อสร้างรวมคุรุภัณฑ์ จำนวนเงิน 4,427 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างอาคารพักแพทย์และพยาบาล 18 ชั้น จำนวน 352 ห้อง วงเงิน 437 ล้านบาท รวมวงเงินการดำเนินการโครงการ ทั้งสิ้น จำนวน 4,864 ล้านบาท
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เดินรับชมบริเวณพื้นที่การดำเนินการก่อสร้างพัฒนาอาคารพักแพทย์และพยาบาลจากมุมสูง และเยี่ยมชมการจัดแสดงบอร์ดนิทรรศการทางการแพทย์ ประกอบด้วย
1. นิทรรศการโครงการยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว (ระยะที่ 3)
2. โรงเรียนเบาหวานวิทยานครชัยบุรินทร์ ภายใต้นโยบายขับเคลื่อนงานป้องกันควบคุมโรคติดต่อไม่เรื้อรังด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพกระบวนทัศน์ใหม่ Diabetes Remission หรือโรคเบาหวานระยะสงบ ภายใต้หลักสูตร “โรงเรียนเบาหวานวิทยา”
3. นิทรรศการโครงการยาเสพติด “การขับเคลื่อนบำบัดรักษา และฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ภายใต้กรอบ CBTx IMC และ LTC”
4. นิทรรศการงานแพทย์แผนไทย นำเสนอสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางการแพทย์ และเป็นสมุนไพรที่เป็นอัตลักษณ์ประจำจังหวัด เช่น พรมมิ สมุนไพร อัตลักษณ์ประจำจังหวัดนครราชสีมา กะเม็ง สมุนไพรอัตลักษณ์ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ และ เร่ว สมุนไพรอัตลักษณ์ประจำจังหวัดชัยภูมิ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากการลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเมื่อครั้งที่แล้ว โรงพยาบาลได้มีคำขออนุมัติซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งตนเองได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 6 ล้านบาท แต่เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องดังกล่าวเป็นแค่สิ่งของที่จำเป็นที่ต้องมีการบริหารจัดการกันต่อไป ในระยะสั้น ตนเองถือว่าการมาในวันนี้ ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ สส. ในพื้นที่ได้มีการนำเสนอถึงความลำบากของพี่น้องประชาชนในแง่ของการสาธารณสุข ซึ่งปัจจัยทางด้านสาธารณสุขถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญ ที่ทำให้พวกเราพี่น้องประชาชนมีความสุข สามารถเติบโตไปคู่กับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า จังหวัดนครราชสีมาถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่ที่สุดจังหวัดหนึ่งในประเทศไทย มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัย พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ จนมาถึงปัจจุบัน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้ดูแลพื้นที่นำความเจริญมาสู่จังหวัดนครราชสีมา รัฐบาลจะมีการดำเนินการนโยบายหลายอย่าง ทั้งศูนย์กลางธุรกิจ การดูแลทั้งวัฒนธรรมการท่องเที่ยว และเหนือในสิ่งอื่นใดคือ การที่รัฐบาลได้ดำเนินการทำนโยบายต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และการมีโรงพยาบาลที่ดี ในการที่จะยกระดับในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นด้านแพทย์เฉพาะทาง อาคารรองรับผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้น และรองรับการขยายตัวของประเทศ และตอบรับนโยบาย Ignite Thailand และนอกเหนือจากการที่เรามีการลงทุนด้านอาคารและคุรุภัณฑ์ทางด้านการแพทย์แล้ว ตนเองได้ฝากรัฐมนตรีให้มีการดูแลเรื่องของบุคลากร เรื่องของผลตอบแทน และเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ หมอ พยาบาล นักกายภาพและวิทยาศาสตร์การกีฬา ถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเราต้องมีการขยายตัวตรงนี้ควบคู่ไปกับการที่เราสร้างโรงพยาบาลให้ใหญ่ขึ้น ให้มีความเหมาะสมกับการเป็นศูนย์กลางทางด้านการแพทย์ ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีและขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในวันนี้
“รัฐบาลมีนโยบายในการเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการสาธารณสุข โดยให้ความสำคัญในการดำเนินการให้แก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากมิติด้านการให้บริการสาธารณสุขแก่ประชาชนแล้ว ทางรัฐบาลก็พร้อมที่จะยกระดับคุณภาพการให้บริการโรงพยาบาลของโรงพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งในการเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ แพทย์ทั่วไปและแพทย์เฉพาะทาง รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์เฉพาะด้าน และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้มีความพร้อมและเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งการปรับปรุงและก่อสร้างอาคารสถานที่ให้มีศักยภาพเพียงพอ จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วย ผู้เข้ารับบริการ ทั้งยังจะอำนวยความสะดวกเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการสาธารณสุขแก่พี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง” นายกรัฐมนตรี ย้ำ