ไทยแอร์เอเชียคงเป้าขนส่งผู้โดยสารตลอดปี 20-21 ล้านคน หลังเปิดเส้นทางการบินในประเทศ-ระหว่างประเทศเพิ่มรองรับการท่องเที่ยวฟื้นตัว วางแผนเพิ่มฝูงบิน 60 ลำ โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรกกวาดรายได้ 25,279 ล้านบาท
บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ผู้ถือหุ้นของ บจ. ไทยแอร์เอเชีย (TAA) เผยผลประกอบการครึ่งปีเเรก ปี 2567 มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 25,279 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรจากการดำเนินการหลักอยู่ที่ 1,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไร 175 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,015 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA เป็นบวกอยู่ที่ 5,003 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 41
สำหรับครึ่งปีเเรก ปี 2567 TAA ขนส่งผู้โดยสารไปเเล้วรวม 10.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราขนส่งผู้โดยสารเติบโตอย่างเเข็งเเกร่งอยู่ที่ร้อยละ 92 โดยมีฝูงบินรวม 57 ลำ สอดคล้องกับสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่องทั้งตลาดในเเละต่างประเทศ
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV เเละ บจ.ไทยแอร์เอเชีย หรือ TTA เปิดเผยว่า แผนงานในครึ่งปีหลังปี 2567 บริษัทยังคงเดินหน้ารุกอย่างเต็มที่ เฉพาะเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดเส้นทางใหม่ “ดอนเมือง-ลำปาง” เป็นครั้งเเรก หลังท่าอากาศยานลำปางพัฒนาและขยายรันเวย์ รวมทั้งการเปิดเส้นทางระหว่างประเทศ อาทิ ดอนเมือง สู่ ฟูก๊วก (เวียดนาม) ไฮเดอราบัด (อินเดีย) และจากภูเก็ต สู่เสียมราฐ (กัมพูชา) เชนไน เเละโกลกาตา (อินเดีย) ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ประสบความสำเร็จในการเจรจาขอขยายสิทธิการบินเพิ่มเติมกับทางประเทศอินเดีย
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายขนส่งผู้โดยสารตลอดปีอยู่ที่ 20-21 ล้านคน และเป้าหมายรายได้จากการขายและบริการที่จะเติบโตร้อยละ 20-23 วางแผนมีฝูงบินเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 60 ลำ ณ สิ้นปี โดยบริษัทได้ทยอยรับเครื่องบินเเอร์บัส A321neo ใหม่ต่อเนื่องไปแล้วอีก 2 ลำ ซึ่งเป็นรุ่นที่เพิ่มปริมาณที่นั่งเป็น 236 ที่นั่ง (เพิ่มขึ้น 56 ที่นั่ง จากเครื่องบินแอร์บัส A320 เดิมที่มี 180 ที่นั่ง) ช่วยประหยัดต้นทุนเเละพลังงานเชื้อเพลิงมากขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อม สอดคล้องกับเเผนพัฒนาความยั่งยืนของบริษัทต่อไป
สำหรับในไตรมาส 2 ปี 2567 สถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างดีจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยจีน มาเลเซีย เเละอินเดีย เป็นนักท่องเที่ยว 3 อันดับเเรก ซึ่ง TAA เป็นสายการบินหลักในการขนส่งนักท่องเที่ยวทั้ง 3 สัญชาติ พร้อมมีเครือข่ายบินที่เเข็งเเกร่ง บินตรงเชื่อมไทยสู่จีน 12 ปลายทาง เเละอินเดีย 11 เส้นทาง
ไตรมาสที่ 2 เริ่มเข้าสู่นอกฤดูการท่องเที่ยว แต่ AAV ยังรักษามาตรฐานการดำเนินงานน่าพอใจ โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 11,485 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน EBITDA อยู่ที่ 1,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ถึงแม้จะรับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในไตรมาส 2 อยู่ที่ -226ล้านบาท บริษัทรายงานกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 84 ล้านบาทจากผลการดำเนินงานหลักที่ดีขึ้น
“ไตรมาสที่ 2 บริษัทมีอัตราขนส่งผู้โดยสารสูงอยู่ที่ร้อยละ 91 ขนส่งผู้โดยสารรวม 5 ล้านคน เรายังเป็นผู้นำตลาดในประเทศด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงที่ร้อยละ 39 สำหรับตลาดต่างประเทศ เราได้เปิดเส้นทางบินใหม่หลายเส้นทาง อาทิ ดอนเมือง สู่ วิสาขปัทนัม (อินเดีย) และโอกินาวา (ญี่ปุ่น) รวมไปถึง ใช้สิทธิเสรีภาพการบินที่ 5 (Fifth Freedom) เริ่มให้บริการจากดอนเมือง แวะรับส่งผู้โดยสารที่ไต้หวัน สู่ปลายทางญี่ปุ่น ในเส้นทาง ไทเป – โอกินาวา และเกาสง – โตเกียว” นายสันติสุขกล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มแอร์เอเชียยังได้รับการประกาศให้เป็นแชมป์ “สายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก” 15 ปีซ้อนจากการจัดอันดับของสถาบันสกายเเทรกซ์ (SKYTRAX) ผ่านการโหวตจากคนทั่วโลก ตอกย้ำเเบรนด์ที่เเข็งเเกร่ง ความไว้วางใจ และมาตรฐานระดับโลก