“จิรายุ”เผยนายกฯตั้งใจแก้ปัญหาน้ำท่วม หลังผลโพลไม่มั่นใจรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลผุดระบบเตือนภัยภัย ‘HOT ALERT ’ แจ้งเตือนปชช.ผ่าน SMS
เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเกิดน้ำป่าไหลหลากที่บ้านหินลาดใน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงรายว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายไปแล้ว โดยสั่งการให้กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคมเข้าไปเคลียร์พื้นที่หลังที่มีดินโคลนถล่มให้เร็วที่สุด ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้วเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ขอให้ ศปช. คอยเฝ้าระวังและแจ้งเตือนไปยังชุมชน ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ว่า ถึงสถานการณ์ฝนที่ตกอยู่ อาจจะทำให้ดินโคลนบนภูเขาสไลด์ลงมาได้ รวมถึงสั่งการให้กองบัญชาการกองทัพไทยที่ดูแลหน่วยทหารพัฒนาที่ประจำอยู่ที่เชียงรายให้ฟังวิทยุสื่อสาร และรับรายงานจากหน้างาน หากมีเหตุการณ์ยกระดับว่าควรประกาศระดับไหน และให้ทหารหน่วยพัฒนาที่สแตนด์บายเข้าพื้นที่ช่วยเหลือ ทั้งนี้ขอให้หน่วยงานต่างๆ ใน ศปช. เฝ้ามอนิเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนสถานการณ์พื้นที่น้ำท่วม จ.ลำปางที่น้ำพัดบ้านและทำให้มีผู้เสียชีวิต นายจิรายุ กล่าวว่า ลักษณะของแต่ละพื้นที่แตกต่างกันไป ทางศปช.ก็มีการเฝ้าระวัง แต่เมื่อดินสไลด์ลงมาไม่สามารถกำหนดทิศทางได้ รัฐบาลก็ต้องขออภัย เพราะไม่อยากให้เกิดความเสียหายกับบ้านของประชาชน แต่ในชนบทเราก็เห็นว่าบ้านที่อยู่ตีนเขาอาจจะโดนดินโคลนถล่มก็จะต้องเฝ้าระวัง และเมื่อมีเหตุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเร่งไปแก้ไข ส่วนนายกฯจะลงพื้นที่หรือไม่ตอนนี้ กำลังประเมินสถานการณ์ และนายกฯ ได้มีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์หรือวิดีโอคอลอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่หากนายกฯ ลงพื้นที่ ก็ต้องมีคนมารับ นอกจากนี้นายกฯ ยังได้มอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมสั่งการต่อเนื่อง ทั้งนี้หากมีบางเรื่องที่สำคัญจะต้องไปดูหน้างาน นายกฯ ก็จะไป แต่บางเรื่อง ที่เรารู้สถานการณ์แล้วจะเป็นการกำชับติดตามและประเมินผล
ส่วนผลโพลออกมาว่า ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล นายจิรายุ กล่าวว่า นายกฯ ทำงานยังไม่ถึง 10 วัน ขอเวลาอีกสักนิดนึง แต่คิดว่าความตั้งใจของนายกฯ ล้น และคนที่เข้ามาเป็นนักการเมืองเมื่อโดนตำหนิก็คงไม่เสียกำลังใจ และจากปัญหาสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มีแนวคิดที่จะทำระบบเตือนภัยผ่าน SMS ที่จะมีรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต่างจาก SMS ปกติ หรือเรียกว่า HOT ALERT โดยมีเสียงแจ้งเตือนตลอดเวลาไม่หยุด จนกว่าจะอ่านตามข้อความแจ้งเตือน ซึ่งจะมีระดับความรุนแรงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
