กูรูประเมินแรงหนุนราคาทองคำดีดตัวขึ้นปม”ตึงเครียดตอ.กลาง-เฟดหั่นดอกเบี้ย”

ราคาทองคำแท่งตั้งแต่ม.ค.-ก.ย.ดีดปรับตัวขึ้น 6,750 บาท มองแนวโน้มทิศทางทองคำระยะยาวขาขึ้น แรงหนุนปมตึงเครียดในตะวันออกกลางปะทุ จีนอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ -ดอกเบี้ยเฟดขาลง

นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด  ราคาทองคำช่วง ม.ค.-ก.ย. ราคาปรับตัวขึ้น ประมาณ 571 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่ง 96.5% ปรับตัวขึ้น 6,750 บาท แนวโน้มทิศทางทองคำระยะยาวเป็นทิศทางขาขึ้น โดยราคาได้รับแรงหนุนจาก สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เป็นขาลง

สำหรับปัจจัยบวกลบที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า
-สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง อิสราเอลยืนยันว่าจะเอาคืนอิหร่าน หลังจาก อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธจำนวนมากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้อิสราเอลที่สังหารประชาชนในฉนวนกาซา รวมทั้งผู้นำของกลุ่มฮามาสและฮิซบอลเลาะห์
-ติดตามแรงซื้อแรงขายจากทางฝั่งจีน หลังจาก ตลาดเงินตลาดทุนของจีนปิดทำการเนื่องในวันชาติของประเทศจีน (Chinese National Day) ตั้งแต่วันที่ 1-7 ตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องในวันชาติของจีน และจะเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคาร 8 ตุลาคม 2024
-ตัวเลขเศรษฐกิจของจีน เช่น ดุลการค้าเดือนก.ย. ,สินเชื่อใหม่ และ ดุลการค้าในสกุลเงิน USD
-ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐระหว่างสัปดาห์ เพิ่มเติมในส่วนรายงานการประชุม FOMC Meeting Minutes เมื่อวันที่ 17-18 ก.ย. 2024 นอกจากนี้แนะนำติดตาม การเปิดเผยตัวเลข ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI),ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อชี้นำทิศทางราคาทองคำ
-รายงานผลประกอบการ ประจำไตรมาส 3/2024 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจาก JPMorgan Chase ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 /2024ในวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา