บวท.ประเมินลอยกระทงคาดเที่ยวบินอยู่ที่ 2,450 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 36% พร้อมขอความร่วมมือปชช.ห้ามปล่อยโคมลอย โคมควันฝ่าฝืนจับ-ปรับ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า บวท. คาดการณ์เที่ยวบินช่วงลอยกระทง 14 – 19 พ.ย.อยู่ที่ 73,500 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 2,450 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 36 % หากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสนามบินที่มีปริมาณเที่ยวบินมากที่สุด 6 อันดับ คือ สนามบินสุวรรณภูมิ 6,170 เที่ยวบิน สนามบินดอนเมือง 3,760 เที่ยวบิน สนามบินภูเก็ต 1,840 เที่ยวบิน สนามบินเชียงใหม่ 1,100 เที่ยวบิน สนามบินสมุย 440 เที่ยวบิน และสนามบินเชียงราย 230 เที่ยวบิน
อย่างไรก็ตาม การอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามเป็นสิ่งที่ควรสืบทอด แต่ในขณะเดียวกันความปลอดภัยของอากาศยานที่ขึ้น – ลงในช่วงเวลานั้น ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามข้อบังคับในการปล่อยโคมลอย โคมควัน ตามช่วงเวลาที่หน่วยงานราชการของแต่ละจังหวัดกำหนดซึ่งจะสัมพันธ์กับการปรับตารางการบินของสายการบินต่าง ๆ เพื่อให้เกิดมาตรฐานการจัดการในช่วงเทศกาลที่ดี ควบคู่ไปกับการสร้างความปลอดภัยทางการบิน
นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า บวท. ได้เตรียมบริหารจัดการการเดินอากาศในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยวางแผนบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ประกอบด้วย การกำหนดพื้นที่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ การกำหนดพื้นที่ปลอดภัย คือ บริเวณแนวขึ้น – ลงของเครื่องบิน และบริเวณโดยรอบสนามบิน และการกำหนดช่วงเวลาให้เครื่องบินหลีกเลี่ยงทำการบินในช่วงเวลาที่มีกิจกรรม อีกทั้งจัดเตรียมบุคลากรให้เพียงพอเพื่อปฏิบัติงานควบคุมจราจรทางอากาศให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างความปลอดภัยทางการบินให้ควบคู่กันไปอย่างยั่งยืน
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือเทศกาลยี่เป็ง ซึ่งตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 หน่วยงานหรือประชาชนในบางพื้นที่อาจมีการจัดกิจกรรมปล่อยโคมลอย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการทำการบินได้ ดังนั้น ในส่วนของ AOT ผู้บริหาร
ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขอย้ำเตือนอันตรายจากการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน พลุ ตะไล บั้งไฟ ดอกไม้ไฟ ลูกโป่ง รวมถึงการปล่อยโดรน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่ออากาศยาน และการมองเห็นของนักบิน ได้แก่ เครื่องบินสูญเสียการควบคุม ทำให้เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ หรือหากเข้าเครื่องยนต์หรือโดนถังน้ำมันเครื่องบิน อาจเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง บดบังทัศนวิสัยของนักบินและรบกวนสมาธิของนักบิน ตลอดจนการฉายลำแสงเลเซอร์ขึ้นบนท้องฟ้า (Laser Beam) ซึ่งรบกวนสายตาของนักบิน
AOT จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการจุด และปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ตามมาตราที่ 59/1 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 ได้ห้ามไว้ หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษสูงสุด คือจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการทำให้อากาศยานในระหว่างบริการเสียหาย จนไม่สามารถทำการบินได้หรืออาจเกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างบิน ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000 บาท ถึง 800,000 บาท
สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการจุด และปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ จะต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเช่น
ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครหรือประกาศจังหวัดที่ต้องการขออนุญาตปล่อย ซึ่งจะระบุรายละเอียดของพื้นที่ที่สามารถอนุญาตปล่อยได้ โดยในการจะปล่อยนั้นต้องดำเนินการขออนุญาตล่วงหน้าจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอในพื้นที่นั้นๆ ล่วงหน้า
ทั้งนี้ กรณีผู้ประสงค์จะขออนุญาตทำการบินอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ที่อยู่ในรัศมี 9 กิโลเมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งของสนามบิน ต้องได้รับการอนุญาตจากสนามบินตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เรื่อง แนวทางในการพิจารณาอนุญาตให้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตรจากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน พ.ศ.2561
ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายซึ่งเป็นพื้นที่ที่นิยมปล่อยโคมลอย โดยในเขตพื้นที่ความปลอดภัยในการเดินอากาศบริเวณใกล้เคียง ทชม.และ ทชร.และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 (พื้นที่สีแดง) ไม่อนุญาตให้ปล่อยโคมลอยไม่ว่าช่วงเวลาใด ซึ่งพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากพื้นที่ดังกล่าวจะต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้องก่อน โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดระยะเวลาในการจุดหรือปล่อย คือ สามารถปล่อยโคมลอย โคมไฟได้ในวันที่ 15 – 16 พฤศจิกายน 2567 ระหว่างเวลา 19.00 – 01.00 น. และปล่อยโคมควัน (ว่าวฮม) ได้ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ระหว่างเวลา 10.00 – 12.00 น. สำหรับจังหวัดเชียงรายสามารถปล่อยโคมลอยได้ในวันที่ 14 – 16 พฤศจิกายน 2567 ระหว่างเวลา 21.00 – 01.00 น. และปล่อยโคมควันได้ระหว่างเวลา 10.00 – 12.00 น.
ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอยฯ ดังนั้น ระหว่างวันที่ 15 – 16 พฤศจิกายน 2567 มีสายการบินแจ้งยกเลิกเที่ยวบินและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบิน
ณ ทชม. จำนวน 154 เที่ยวบิน โดยมีเที่ยวบินที่ยกเลิก 66 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลา 88 เที่ยวบิน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567) อย่างไรก็ตาม ช่วงเทศกาลลอยกระทงมีสายการบินขอทำการบินเที่ยวบินพิเศษ ณ ทชม.เพิ่มเติม 16 เที่ยวบิน
ดร.กีรติ กล่าวว่า ท่าอากาศยานของ AOT ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีไทย โดยได้ตกแต่งพื้นที่และสร้างบรรยากาศช่วงเทศกาลลอยกระทงภายในอาคารผู้โดยสาร เช่น กิจกรรมลอยกระทง กิจกรรมประกวดนางนพมาศ และจัดซุ้มถ่ายภาพ ซึ่งจะเป็นการสร้างความประทับใจ และเผยแผ่ประเพณีที่งดงามของประเทศไทย
กฎหมาย กฎ กฎระเบียบ หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
- พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 มาตรา 59/1 และ 59/2
- พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 มาตรา 109/1 และ 109/2
- พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 มาตรา 24 และ 78
- พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 18 และ 19
- ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง แนวทางในการพิจารณาอนุญาตให้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกทำการบินภายในระยะ 9 กิโลเมตรจากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน พ.ศ.2561