‘พิธา’ ของขึ้น! สับ ‘ทักษิณ’ ยิบ ขิง บ้านเกิด-บ้านจันทร์ฯ ก็ชนะมาหมดแล้ว ปั๊ดโธ่! เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง สลัดมือฝ่าย ปชต.จับมือพรรค 2 ลุง บอก ไม่คิดต้องมา Fact Check รถไฟความเร็วสูง ‘ทักษิณ’ ซ้ำรอย ‘ประยุทธ์’
วันที่ 16 พ.ย.67 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง พร้อมด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน คณะกรรมการคณะก้าวหน้า , นางสาวพรรณิการ์ วาณิชย์ แกนนำคณะก้าวหน้า , นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ สส.พรรคประชาชนอีกหลายคน ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่สวนสาธารณหนองประจักษ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ช่วยหาเสียงให้กับนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี จากพรรคประชาชน โดยเวทีนี้นายพิธาได้เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อที่ตัดจากผ้าไหมแพรวาสีกรมท่า ที่เคยใส่เมื่อครั้งเปิดตัวนายอดิศรเป็นผู้สมัคร นายกฯ อบจ.ของพรรคประชาชน
นายพิธาเริ่มต้นทักทายว่า อุดรร้อนเป็นไฟ การเมืองร้อนระอุต้องที่อุดรใช่หรือไม่ ตนบินมาจากอเมริกา นั่งอยู่บนเครื่องบินก็จามเอา จามเอา สงสัยมีคนคิดถึงเยอะ
นายพิธายืนยันว่า การบินกลับเมืองไทย ได้ประกาศในโซเชียลมีเดียมาตั้งแต่ 29 กันยายน ว่าจะกลับมาช่วยหาเสียง เนื่องจากเป็นช่วงใกล้ปิดเทอม เป็นวันหยุด วันขอบคุณพระเจ้า และตนก็ไม่ต่างจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
“คุณทักษิณรักคุณอิ๊งค์อย่างไร ผมก็รักพิพิมอย่างนั้น พอมีเวลาก็กลับมาหาลูก มันจะไปกลัวแพ้อะไร มันจะกลัวแพ้ได้ยังไง แพ้มาเยอะแล้ว แต่ชนะมาก็เยอะเหมือนกันนะ ได้ข่าวอุดรเขต 1 ผมก็ชนะมา บ้านเกิดทักษิณก็ชนะมา บ้านจันทร์ส่องหล้า เขตนั้นผมก็ชนะมา ปั๊ดโธ่“
นายพิธากล่าวว่า เลือกตั้งสส.อุดร เขต 1 ก็ชนะผู้สมัคร นายกฯ อบจ.เพื่อไทยคนปัจจุบันมาแล้ว จะชนะอีกทีก็ขึ้นอยู่กับประชาชน ส่วนเรื่องป้ายหาเสียง “เขาบอกทำไมพรรคนี้มี 2 ป้าย มีทั้งทิม และเท้ง ของเขาไม่ต้อง เพราะหน้าเหมือนกัน เพราะเขาธุรกิจครอบครัว เป็นพ่อเป็นลูกก็หน้าเหมือนกัน ผมกับหัวหน้าเท้งอุดมการณ์เดียวกัน แต่คนละสายเลือด มันก็แค่นี้”
นายพิธากล่าวอีกว่า นายทักษิณโดนยุบพรรคมาแล้ว 3 ครั้ง ตนโดนมา 2 ครั้ง เป็นรุ่นน้องเขา แทนที่จะเข้าอกเข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกัน แทนที่จะร่วมกันแก้ไขกฎหมาย ไม่ให้พวกเขายุบพรรคพวกเราได้อีก 22 พฤศจิกายนนี้ จะได้ไม่ต้องไปลุ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนเลือกมาแล้ว ก็ไม่เอา แล้วมาแขวะอะไรเรื่องเล็กๆน้อยๆ เรื่องรูปหล่อ ตนพูดไว้ตรงนี้เลย อยู่กับหัวหน้าเท้งมานาน มีอย่างเดียวที่ตนสู้เขาได้ นั่นคือ ความโสด
“เนี่ย มาอุดร คนอ้อนก็ไม่มี หัวหน้าเท้งมีภรรยาแล้ว แต่ผมยังโสดอยู่ ไอ้ความหล่อเขาก็ซิงกว่า สดกว่า ไอ้ฉลาดเขาก็ฉลาดกว่า แต่ก่อนผมปราศรัย ข้อมูลคุณเท้งทำให้ทั้งนั้น จะบอกให้ พี่น้องพรรคประชาชนต้องอดทน แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร ต้องให้กำลังใจและให้เวลากับหัวหน้าเท้ง เหมือนที่ให้กับผม เขาคนนี้คือเอไอทางการเมือง ใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหา เรื่องงบประมาณ หัวหน้าเท้ง ก็บอกว่า ผมเอาตายแน่“
ส่วนที่นายทักษิณบอกว่าประชาชนยังไม่หายจน เพราะโดนยึดอำนาจไป โดนปฏิวัติไป นายทักษิณพูดถูก แต่ทำไมไปจับมือกับพรรคที่อยู่ในคณะทำรัฐประหาร เรื่องนี้ตนไม่เข้าใจจริงๆ ก่อนถามประชาชนว่า เข้าใจหรือไม่ ปากนายทักษิณก็บอกว่ารู้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจนของประชาชนตลอด 18 ปีที่ผ่านมา มาจากการทำรัฐประหาร แต่กลับสลัดมือจากฝ่ายประชาธิปไตย ไปจับมือกับพรรค 2 ลุง ทั้งๆ ที่บอกว่าจะไม่จับมือ จับมือทำไม แบบนี้ไม่รู้จะเรียกว่า “เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง” ได้หรือไม่
“เสียดายมากที่สุด ตอนที่เป็น 312 เสียงด้วยกัน นั่นคือประชาชนเขาแยกกองมาให้แล้ว ฝั่งลุงไม่มีเรา กับฝั่งเราไม่มีลุง เป็นโอกาสที่เราร่วมมือกันเมื่อไหร่ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม กลับทิ้งโอกาสนั้น แล้วมาบอกว่า ธนาธรอย่าไปแทรกโครงสร้างอะไรมากนัก แต่อยากกระจายอำนาจ แก้ทุนผูกขาด ไม่อยากมีปฏิวัติ อยากให้รัฐบาลพลเรือนอยู่กับทหาร แต่ไม่แก้โครงสร้าง แล้วจะแก้อย่างไร ก็ปะผุกันไปเรื่อยๆ พอทำไม่ได้ก็ฟอกขาวว่าบอกนายธนาธรไปแล้วว่าแก้ไขอะไรไม่ได้ พอพูดอย่างนั้นผมนึกถึงดีลลับกับนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีรูปออกมาดีลลับลังกาวี ผมไม่ค่อยเชื่อ ฟังแต่ยังไม่เชื่อ ตอนนั้นยังอยู่ด้วยกัน ทำท่าเป็นข้าวต้มมัดอยู่เลย พลิกเป็นอีกอย่างหนึ่ง”
นายพิธายังปราศรัยถึงความเท่าเทียมทางโอกาส ว่าวัดกันอย่างนี้เลยหรือไม่ ใครเป็นนายก อบจ.อุดรคนต่อไป ทำให้เกิดความเท่าเทียมทางโอกาส เพราะที่นี่จะต้องเท่าเทียม การเข้าถึงสาธารณสุข ไม่มีใครเข้าใจดีเท่าผู้สมัครพรรคประชาชนที่มีลูกสาวเป็นหมอ
ส่วนที่บอกว่า จะทำรถไฟความเร็วสูง จำได้ว่าเคย Fact Check พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่คิดว่าวันนี้ต้องมา Fact Check นายทักษิณด้วย จำได้ว่าเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ ว่าจะมีรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ตรวจสอบไปมา แค่กรุงเทพ-นครราชสีมา ก่อสร้างไปได้แค่ 5 % คราวนี้บอกว่าจะไปถึงฉงชิ่ง ถ้าบอกจะทำให้ได้ และบอกว่าจะทำอย่างไรให้เสร็จในปี 2572 จะเวนคืนและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างไร อันนั้นค่อยยังชั่ว แต่ไม่ใช่พูดลอยๆ บอกให้อุดรธานีเตรียมตัวไว้