กูรูประเมินแนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์หน้าไปต่อ หลังสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนเกิดปัญหาความตึงเครียด เกาะติดเงินเฟ้อสหรัฐฯ-รายงานผลประชุมเฟด-สงคราม
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยแนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น หากความขัดแย้งในตะวันออกกลางปะทุ โดยในช่วง 1 พ.ย.-22 พ.ย. ราคา Gold SPORT ปรับตัวลง ประมาณ 50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่ง 96.5% ปรับตัวลงประมาณ 150 บาท โดยราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น(ติดลบน้อยลง) เพราะเงินบาทแข็ง
ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยทั้ง 2 ประเทศ ต่างเปิดฉากยิงขีปนาวุธเข้าใส่กัน เมื่อรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) สามารถยิงได้ไกลหลายพันกิโลเมตร และสามารถใช้ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ โจมตียูเครน หลังจากยูเครนใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ และอังกฤษ โจมตีเป้าหมายภายในประเทศรัสเซีย จนเป็นเหตุให้รัสเซียประกาศปรับหลักเกณฑ์ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทำให้ราคาทองคำผันผวนมาก
ปัจจัยบวกลบที่ต้องติดตาม
-รัสเซียเปิดกว้างที่จะหารือข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนกับโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ปฏิเสธที่จะยอมคืนดินแดนสำคัญ และยืนยันว่ายูเครนต้องละทิ้งความพยายามที่จะเข้าร่วมองค์การนาโต (NATO)
-การเปิดเผยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ เช่น ดัชนี PMI ภาคการผลิตของ ISM ,ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ ,ประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีช่วงไตรมาส 3/2024, ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (Core PCE ) พื้นฐาน ทั้งนี้ Prelim GDP เป็นมาตรวัดการขยายทางเศรษฐกิจ และ Core PCE Price Index เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลัก ที่ธนาคารกลางสหรัฐ ให้มีความสําคัญต่อเพื่อใช้กำหนดการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
-คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยรายการประชุมครั้งที่ผ่านมา หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ว่าเฟดจะตัดสินใจอย่างระมัดระวังว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ทั้งนี้ เฟดจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง โดยการประเมินข้อมูลที่เฟดได้รับ รวมทั้งแนวโน้มเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้น
-ปริมาณการซื้อเบาบางในฝั่งสหรัฐอาจเบาบางในวันพฤหัสบดี เนื่องจาก ตลาดเงิน-ตลาดทุนจะปิดทำการ เนื่องในวันวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)