ราคาทองคำแท่งตั้งแต่ม.ค.-29 พ.ย.ปรับตัวขึ้นประมาณ 43,100 บาท ขณะที่ราคาต่างประเทศปรับตัวลง 600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มองแนวโน้มทองสัปดาห์หน้าปรับตัวขึ้น หลังตลาดคาดธนาคารทั่วโลกเดินหน้าสะสมทองคำต่อเนื่อง
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยทิศทางทองคำ
สัปดาห์หน้าว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความเปราะบางทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐ ความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐ อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ทำให้ขยายวงกว้างจนเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทองคำจึงยังมีความสำคัญในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะยาว
ส่วนราคาทองคำช่วง ม.ค.-29 พ.ย. โดย ราคา Gold SPORT ปรับตัวลง ประมาณ 600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่ง 96.5% ปรับตัวขึ้นประมาณ 43,100 บาท โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลกที่ยังคงเดินหน้าสะสมทองคำต่อเนื่อง โดยผลสำรวจของ World Gold Council ในปี 2024 บ่งชี้ว่า Central Bank ทั่วโลกราว 69% จะสะสมทองคำเพิ่มขึ้นในฐานะทุนสำรอง
ขณะเดียวกันปัจจัยที่จะต้องจับตาในความขัดแย้งระหว่างรัฐเซีย-ยูเครน และ ตะวันออกกลางก็ยังเป็นอีกปัจจัยหนุนทองคำ ถึงแม้จะเป็นปัจจัยที่ตลาดรับรู้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเหตุการณ์จะลุกลามขยายวงกว้างหรือไม่
ปัจจัยบวกลบที่ต้องติดตาม
-แนะนำติตาม การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเพื่อสะท้อนทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มเติม โดย ISM เปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการ เดือนพ.ย. และ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย. จาก ADP ร่วมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน และ รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง เดือนพ.ย.
-ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ได้เพิ่มความกังวลจีนอ้างสิทธิ์เหนือไต้หวัน และกล่าวหาว่าปธน.ไล่เป็น “ผู้แบ่งแยกดินแดน” คาดการณ์ว่า จีนอาจจัดการซ้อมรบทางทหาร โดยใช้การเดินทางเยือนภูมิภาคแปซิฟิกและการแวะพักเครื่องที่สหรัฐ ของ ปธน. เป็นข้ออ้างในการดำเนินการซ้อมรบดังกล่าว ทั้งนี้ ปธน.ไล่จะออกเดินทางในวันเสาร์ที่ 30 พ.ย.
-กลุ่มโอเปกพลัส ประกาศเลื่อนการประชุมเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน จากเดิมในวันที่ 1 ธ.ค. ออกไปเป็นวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ซึ่งการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการที่สมาชิกหลายรายของโอเปกพลัส จะต้องเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศรอบอ่าวเปอร์เซีย ครั้งที่ 45 ที่คูเวตซิตี
กลยุทธ์การลงทุน
หลังจากราคาทองคำขยับขึ้น ระยะสั้นหากราคาพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้จะทำให้แนวโน้มราคาเป็นบวกเพิ่มขึ้น แนะนำเสี่ยงเปิดสถานะซื้อ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับ 2,638-2,621 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไรหากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 2,670-2,688 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ สถานะซื้อตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ 2,621 ดอลลาร์ต่อออนซ์