“อรมน” เร่งเยียวยานิติบุคคล 8 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วยการออกมาตรการช่วยขยายเวลาดำเนินการจดทะเบียนของนิติบุคคล- การแจ้งบัญชีและเอกสารสูญหาย -การนำส่งงบการเงิน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 จนถึงปัจจุบัน ได้สร้างความเสียหายแก่นิติบุคคลและประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเป็นอย่างมาก โดย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงพาณิชย์ เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
รวมถึงการเยียวยาภาคธุรกิจซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอย่างเร่งด่วน โดยนิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตประสบภัยพิบัติ ไม่สามารถเดินทางมาดำเนินการจดทะเบียน หรือนำส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือดำเนินการอื่นใดต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดในช่วงเวลาที่เกิดอุทกภัย รวมถึงเอกสารสูญหาย/เสียหายจากภัยพิบัติดังกล่าว
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบเหตุฯ และได้รับผลกระทบใน 8 จังหวัดภาคใต้ โดยมีมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ ดังนี้
1.นิติบุคคลผู้ประสบอุทกภัยซึ่งมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตที่ประสบเหตุ สามารถขอขยายเวลาและชี้แจงเหตุผลความจำเป็นและหลักฐานที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ทำให้ไม่อาจดำเนินการยื่นจดทะเบียน ยื่นงบการเงิน ยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) รวมถึง การแจ้งบัญชีหรือเอกสารประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหายที่ต้องแจ้งต่อสารวัตรบัญชี ภายในระยะเวลาที่กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมกำหนดได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาขยายเวลาในการยื่นเอกสารหรือดำเนินการตามกฎหมายของนิติบุคคล ทั้งนี้ นิติบุคคลสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาหรือดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่สถานการณ์อุทกภัยได้สิ้นสุดลง
2.กรณีนิติบุคคลใดได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิด กรณีไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น การยื่นคำขอจดทะเบียน การแจ้งบัญชีสูญหายหรือเสียหาย การยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือ การนำส่งงบการเงินเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประสบอุทกภัย สามารถชี้แจงเหตุผล ความจำเป็น และหลักฐานที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยทำให้ไม่อาจดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมกำหนดได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณายุติเรื่องและไม่ออกคำสั่งปรับเป็นพินัยตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย
โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการพัฒนาระบบจดทะเบียนธุรกิจและการให้บริการด้านต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาอำนวยความสะดวก ข้อมูลมีความถูกต้อง รวดเร็ว และทันสมัย เพื่อเพิ่มช่องทางและลดอุปสรรคให้ผู้ประกอบธุรกิจได้รับบริการอย่างเต็มรูปแบบ ไม่จำกัดเวลา และสถานที่ โดยกรมมีความมุ่งหมายให้ช่องทางออนไลน์ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจและช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องการติดต่อกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ประสบเหตุอุทกภัย แต่ไม่สามารถเดินทางได้ สามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดหรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ ข้อมูลจาก DBD Datawarehouse+ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 พบว่า 8 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม มีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่จำนวนทั้งสิ้น 31,759 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 231,616.30 ล้านบาท แบ่งเป็น
- สงขลา 13,109 ราย ทุน 135,015.44 ล้านบาท
- นครศรีธรรมราช 7,329 ราย ทุน 34,401.35 ล้านบาท
- ตรัง 2,950 ราย ทุน 22,374.88 ล้านบาท
- พัทลุง 2,117 ราย ทุน 5,637 ล้านบาท
- ยะลา 1,817 ราย ทุน 11,787.44 ล้านบาท
- ปัตตานี 1,753 ราย ทุน 9,543.10 ล้านบาท
- นราธิวาส 1,743 ราย ทุน 8,415.09 ล้านบาท
- สตูล 941 ราย ทุน 4,442 ล้านบาท
- โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญต่อแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่กำลังประสบเหตุอุทกภัยให้สามารถชี้แจงเหตุผลความจำเป็นและหลักฐานที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากเหตุทำให้ไม่อาจดำเนินการในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดได้ รวมถึงสามารถใช้ช่องทางออนไลน์เป็นส่วนช่วยให้ภาคธุรกิจดำเนินธุรกิจต่อไปได้ด้วยความมั่นใจ