มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 56.9ปรับตัวดีขึ้นเดือนที่ 2 ในรอบ 9 เดือน หลังรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังน้ำท่วมภาคเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือคลี่คลาย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 อยู่ในระดับ 56.9 เพิ่มจาก 56.00 ในเดือนตุลาคม ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในรอบ 9 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มเห็นว่ามาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลช่วยผ่อนคลายให้สถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น และการท่องเที่ยวในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือและภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือคลี่คลายลง
ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ระดับ 50.4 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมอยู่ในระดับ 54.3 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต 66.1 ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต เพราะมีความกังวลปัญหาการเมืองในประเทศ และค่าครองชีพแพง ปัญหาเศรษฐกิจโลก มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงจากสงครามการค้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 39.6 เป็น 40.4 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 64.0 มาอยู่ที่ระดับ 64.9 การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในรอบ 9 เดือนทุกรายการ แสดงว่า ผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในอนาคตได้ หากรัฐบาลขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีต่อเนื่องและไม่มีปัจจัยเสี่ยงใดๆ เกิดขึ้นเพิ่มเติมทั้งความเสี่ยงจากภายในและภายนอกประเทศ