อัยการฟ้องแล้ว “แอมมี่” เจออ่วม 3 ข้อหาหนัก ม.112-วางเพลิง-พรบ.คอมฯ กรณีบังอาจเผาพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าเรือนจำคลองเปรม
เมื่อวันที่ 25 พ.ค.64 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง’’แอมมี่’’ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ จำเลย ในฐานความผิดร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินีรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ , ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามป.อาญา มาตรา 33, 83 ,91, 112, 217 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6 )พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พ.ร.บ.การกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14
โดยคำฟ้องบรรยายสรุปพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ 64 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกอีก 2 คน ที่ยังไม่ได้นำตัวมาฟ้องและหลบหนี ได้บังอาจร่วมกันวางเพลิงโดยใช้น้ำมันก๊าซราดใส่และจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งได้ประดิษฐาน ไว้ที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของเรือนจำกลางคลองเปรม จนไฟได้ลุกลามไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมโครงไม้ เหล็กและอุปกรณ์ที่ประดับจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งสิ้น 6 รายการ และค่าติดตั้ง 1 รายกา รวมเป็นความเสียหายทั้งหมดเป็นเงิน 60,000 บาท ซึ่งพระบรมฉายาลักษณ์ที่ประดิษฐานอยู่นั้นเรือนจำกลางคลองเปรม เป็นหน่วยราชการได้จัดทำขึ้นไว้เพื่อแสดงความจงรักภักดี เป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระมหากษัตริย์หรือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10
ซึ่งขณะเกิดเหตุประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน เป็นพระมหากษัตริย์ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 2 บัญญัติว่าประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมาตรา 6 บัญญัติว่าองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆมิได้ ดังนั้นการกระทำของจำเลยกับพวกข้างต้นจึงเป็นการกระทำอันไม่สมควรล่วงละเมิด เป็นการแสดงออกด้วยประการใดว่าจะทำให้เสียหายในทางใดๆไม่ว่าจะเป็นพยานอันตรายแก่ร่างกายทรัพย์สินสิทธิเสรีภาพหรือชื่อเสียงเกียรติคุณอันไม่ใช่การใช้สิทธิ์ตามปกตินิยมนับเป็นการแสดงอาฆาตมาดร้ายดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ทำให้ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น หมิ่นพระเกียรติ ถูกลบหลู่ และมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของปวงชนชาวไทย ไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้
อีกทั้งจำเลยได้บังอาจนำเข้าและเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์เป็นภาพที่ไฟกำลังลุกไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่ประดิษฐานติดตั้งอยู่บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม และมีการพิมพ์ข้อความว่า “สื่อคงไม่กล้าออก มิตรสหายท่านหนึ่งแจ้งว่า เมื่อคืนเกิดเหตุไฟไหม้ พระบรมฯที่หน้าเรือนจำคลองเปรม คนละ 1 แชร์แด่อิสรภาพ #ปล่อยเพื่อนเรา///” โดยจำเลยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ที่ในบัญชีเฟสบุ๊ก ชื่อว่า The Bottom Blues ของจำเลย ซึ่งเปิดเป็นบัญชีสาธารณะประชาชนทั่วไป สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นพฤติกรรมของจำเลย จึงเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
เหตุเกิดที่ แขวงลาดยาว เขตจตุจักรกรุงเทพมหานคร ซึ่งชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วยศาลประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา เป็นคดีหมายเลขดำ อ.1199/2564