ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 12.46 จุด รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ TOP ที่ร่วงแรงจากปัจจัยเฉพาะตัว และแรงขายกลุ่มแบงก์ ชี้สัปดาห์หน้าคาดหวังตลาดฯ รีบาวด์ได้บ้างในระยะสั้น โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,365-1,350 จุด และแนวต้าน 1,380-1,390 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,365.07 จุด ลดลง 12.46 จุด หรือ -0.90% มูลค่าการซื้อขาย 60,167.64 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ซึมตัวลงต่อและแย่กว่าคาด รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ TOP ที่ร่วงแรงจากปัจจัยเฉพาะตัว
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดหวังตลาดฯ รีบาวด์ได้บ้างในระยะสั้น เนื่องจากปรับลงมาในกรอบแนวรับสำคัญ ซึ่งในทางเทคนิคอยู่ในโซน Oversold แล้ว และ Valuation ค่อนข้างถูกมากๆ, Earning Yield Gap ขณะนี้อยู่ที่ 4.8% ก็ค่อนข้างกว้างมาก ประกอบกับ ยังมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่จะเข้า ครม. แต่ยังต้องติดตามการประชุมสมาคมบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) ในประเด็นของ CPALL-CPAXT หากออกมาในเชิงบวกก็จะเป็นปัจจัยหนุน และคืนนี้ลุ้นตัวเลข PCE สหรัฐจะออกมาตามตลาดคาดที่ 0.2% MoM หรือไม่ โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,365-1,350 จุด และแนวต้าน 1,380-1,390 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,755.81 ล้านบาท ปิดที่ 53.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,734.71 ล้านบาท ปิดที่ 23.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,230.86 ล้านบาท ปิดที่ 149.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 3,219.87 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท ลดลง 7.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,455.01 ล้านบาท ปิดที่ 31.00 บาท ลดลง 0.75 บาท