“รมว.ดีอี” เผยประสานกัมพูชาร่วมแก้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมผลักดันพ.ร.ก.คุ้มครองผู้เสียหายปีหน้า ชี้ถ้ามีผลบังคับใช้ในเดือนมกรามกราคม 2568 ก็คงจะดีเพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล ตึกสันติไมตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวบนเวทีปราศรัยถึงประเด็นการกำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยระบุว่าหากไม่จัดการจะส่งกำลังไปจัดการเองว่า ตามจริงท่านพูดบนเวทีปราศรัย ซึ่งเป็นความปรารถนาดีที่นายทักษิณมองเห็นว่าเป็นปัญหาหนึ่งที่ต้องได้รับการแก้ไข แล้วต้นตอของปัญหาส่วนหนึ่งก็อยู่ต่างประเทศหรือที่ปอยเปต แล้วก็เป็นที่ทราบกันดีว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ใช้สถานที่นั้นเป็นสถานที่ปฏิบัติการ ทุกคนทราบปัญหานี้ดีและต้องมีการแก้ไขปัญหา ทางกระทรวงดีอีไม่ได้นิ่งนอนใจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ดำเนินการในเรื่องนี้อยู่ ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยกับทางประเทศกัมพูชาตลอดอยู่แล้ว
ส่วนที่ผ่านมาทางตำรวจได้เคยมีการประสานงานกับทางประเทศกัมพูชา เข้าไปทะลายแก๊งในประเทศกัมพูชาร่วมกัน ปัจจุบันมีเบาะแสที่จะสามารถทำให้เกิดการปฏิบัติการแบบเดิมอีกหรือไม่นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า มีการทำงานร่วมกันของระดับปฏิบัติการ ก็คือฝ่ายความมั่นคงของประเทศเราและฝ่ายของประเทศกัมพูชา รวมถึงมีการทำงานร่วมกันของฝ่ายนโยบาย และกระทรวงดีอีได้มีการพูดคุยกับทางประเทศกัมพูชาอยู่เช่นกัน โดยดูเวลาและโอกาสอันเหมาะสม คงที่จะต้องมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
เมื่อถามอีกว่า จะเห็นผลหรือเสร็จสิ้นภายในปี 2568 ตามที่นายทักษิณพูดหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า อยากให้เห็นผลในปี 2568 เพราะเรื่องนี้กัดกร่อนคนไทยกันมานานแล้ว และไปใช้สถานที่ตั้งในต่างประเทศ
เมื่อถามถึงกรณีอินเตอร์เน็ตมาจากฝั่งไทย เมื่อจับสัญญาณได้ทีก็ตัดเน็ตครั้งหนึ่ง ทางกระทรวงดีอี มีการตรวจสอบเบาะแสเพิ่มเติมหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เราได้ประสานงานกับทาง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดีเอสไอ และ กรมสอบสวนกลาง ปราบอยู่ตลอดตามแนวตะเข็บชายแดน ซึ่งขณะนี้มิจฉาชีพมิจฉาชีพใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำ อย่างสตาร์ลิ้งค์เข้าไปยิงสัญญาณอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นปัญหาที่ตามจับอยู่ ส่วนเรื่องที่มีการวางสายสัญญาณลอดไปนั้น เราก็มีการตรวจสอบอยู่ตลอด เรียกได้ว่ามีการปฏิบัติงานอยู่ทุกเดือน(
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีมาตรการกดดันไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงค์ชาติ) เรื่องเกี่ยวกับการหน่วงเงินหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า มี เรื่องการหน่วงเงินนี้เป็นข้อเสนอที่หลายฝ่ายอยากให้เกิดขึ้น ตนจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับแบงค์ชาติ ตอนนี้เราเสนอร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาอยู่ในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินการธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัล เรื่องของการเพิ่มโทษ เรื่องของการเยียวยา และเรื่องสุดท้ายของ พ.ร.ก. คือ การมีความรับผิดชอบของธนาคารพาณิชย์ กับผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณ ซึ่งก็จะต้องมีการลงในรายละเอียดต่อไป
เมื่อถามอีกว่า ต่อไปนี้หากมีผู้เสียหายธนาคารก็จะต้องมีส่วนเยียวยา อย่างเช่นประเทศสิงคโปร์ ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องดูว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดจากระบบธนาคารมีความไม่ปลอดภัย หรือเพราะประชาชนมีความประมาท อันนี้ต้องดูเหตุผลด้วย ปีหน้าเห็นการแก้ไขแน่นอน ซึ่งร่าง พ.ร.ก. นี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว ซึ่งกำลังรอพิจารณาอยู่ โดยเข้าไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ถ้ามีผลบังคับใช้ในเดือนมกรามกราคม 2568 ก็คงจะดีเพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน