วันศุกร์, มกราคม 3, 2025
หน้าแรกNEWSสมาคมธนาคารไทยแจงโมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารมีความปลอดภัย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สมาคมธนาคารไทยแจงโมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารมีความปลอดภัย

“ธปท.” จี้ “ธนาคารพาณิชย์” ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหายร้องเรียนว่า ถูกดูดเงินจากแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ 3 บัญชี ด้านสมาคมธนาคารไทยออกโรงแจงโมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารมีความปลอดภัย ไม่พบพฤติกรรมและหลักฐานในลักษณะแอปฯ ดูดเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่ากรณีที่มีผู้เสียหายร้องเรียนว่าถูกดูดเงินจากแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ 3 บัญชี และหนึ่งในนั้นเป็นบัญชีในนามนิติบุคคล นั้น  ในช่วงที่ผ่านมา ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ และประสานงานกับธนาคารเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงมาอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลเบื้องต้น ทั้ง 3 ธนาคารเจ้าของบัญชีแจ้งว่าไม่พบการทำธุรกรรมที่เกิดจากแอปพลิเคชันดูดเงิน และอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุของกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ธปท. เห็นว่าการตรวจจับพฤติกรรมการโอนเงินที่ผิดปกติและการแจ้งเตือนลูกค้าจำเป็นต้องยกระดับให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของบัญชีนิติบุคคล  ธปท. จึงได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยกระดับมาตรฐานการตรวจจับ รวมถึงการแจ้งเตือนอื่น ๆ แล้ว และจะติดตามตรวจสอบการดำเนินการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยหากพิสูจน์พบว่าเป็นความผิดพลาดของธนาคาร ทางธนาคารจะต้องรับผิดชอบความเสียหายดังกล่าว

ธปท. ขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าอย่างครบวงจร และคาดหวังให้ธนาคารปรับปรุงระบบงานและกระบวนการติดตามตรวจสอบ แจ้งเตือน และระงับธุรกรรมอย่างเท่าทัน รวมถึงคาดหวังให้ธนาคารต้องแสดงความรับผิดชอบ เยียวยาความเสียหายอย่างเป็นธรรมและเหมาะสมหากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าความเสียหายดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดหรือบกพร่องของธนาคาร ซึ่ง ธปท. จะหารือกับธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางที่เหมาะสมต่อไป

ด้านสมาคมธนาคารไทยระบุว่า ​ตามที่ปรากฎข่าว ผู้ใช้บัญชีธนาคารประเภทนิติบุคคล สงสัยแอปพลิเคชันธนาคารถูกแฮก และโอนเงินออกจากบัญชี นั้น

สมาคมธนาคารไทย โดย ศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB-CERT) และธนาคารสมาชิกที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยเร็วที่สุด โดยขอชี้แจงดังนี้

1.จากการตรวจสอบเบื้องต้นของธนาคารที่เกี่ยวข้อง 3 ธนาคาร ไม่พบพฤติกรรมและหลักฐานในลักษณะแอปฯ ดูดเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร

2.โมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารมีความปลอดภัย ครอบคลุมถึงการป้องกันภัยเรื่องของแอปฯดูดเงิน ทั้งนี้ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โดยมีการพัฒนายกระดับความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การใช้งานโมบายแบงกิ้งเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพและปลอดภัย จึงขอให้ลูกค้าประชาชนมั่นใจว่า ระบบโมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารมีความปลอดภัยสูง

3.ยืนยันว่าโมบายแบงกิ้งบัญชีบุคคลธรรมดา การโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาท ต่อครั้ง และ 200,000 บาท
ต่อวัน ยังคงต้องยืนยันตัวตนโดยการสแกนใบหน้า ซึ่งธนาคารมีระบบตรวจสอบความถูกต้องของการสแกนใบหน้า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด สำหรับนิติบุคคลนั้นปัจจุบันไม่ได้มีการให้ยืนยันตัวตนโดยการสแกนใบหน้าเนื่องจากการอนุมัติรายการนิติบุคคลนั้นมีขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยแบบมี Maker, Checker, และ Authorizer ที่มีความซับซ้อนมากกว่าและยังคงความปลอดภัยขั้นสูงสุดเนื่องจากมูลค่าการโอนเงินนั้นมีมูลค่าสูงกว่า

    สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ตระหนักถึงภัยทางการเงินที่มีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันและจัดการภัยทางการเงินให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ธนาคารที่เกี่ยวข้องได้เร่งประสานและเน้นย้ำให้ผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรายงานข้อเท็จจริงโดยละเอียด เพื่อทราบถึงเหตุที่แท้จริงและสืบหาผู้ที่เกี่ยวข้องของอาชญากรรมทางไซเบอร์ดังกล่าวได้โดยเร็ว โดยภาคธนาคารมีความห่วงใยและพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ ป้องกันและติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

    - Advertisment -spot_imgspot_img
    spot_imgspot_img
    spot_imgspot_img
    - Advertisment -spot_img
    - Advertisment -spot_imgspot_img

    Featured

    - Advertisment -spot_img
    spot_img
    spot_img
    Advertismentspot_imgspot_img
    spot_imgspot_img