วันพฤหัสบดี, มกราคม 9, 2025
หน้าแรกHighlight‘พิชัย’ชงสร้างแซนบอกซ์หนุนใช้‘คริปโท’ ซื้อสินค้าแทนเงินสดคาดนำร่องที่จ.ภูเก็ต
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘พิชัย’ชงสร้างแซนบอกซ์หนุนใช้‘คริปโท’ ซื้อสินค้าแทนเงินสดคาดนำร่องที่จ.ภูเก็ต

“ขุนคลัง”  เตรียมสร้างแซนบอกซ์ใช้คริปโทเคอร์เรนซีใช้จ่ายสินค้าแทนเงินสด นำร่องภูเก็ต จับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดจีดีพีปีนี้ขยายตัวได้เกินกว่า 3% สูงกว่าปี 2567 ที่เติบโตอยู่ที่ 2.7-.2.8%

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว. คลัง เปิดเผยว่า ได้เสนอให้รัฐบาลเปิดทดลองทำแซนบอกซ์ ใช้สกุล “คริปโทเคอร์เรนซี” แทนการใช้เงินสด เพื่อนำไปชำระค่าบริการสินค้าในพื้ที่เมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ไทยเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล โดยจะเริ่มเห็นในปี 2568 นี้ เนื่องจากมองว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั่วโลกมีการถือครองทรัยพ์สินที่เป็นคริปโทเคอร์เรนซีจำนวนมากและมูลค่าของ คริปโทเคอร์เรนซี ก็เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา  คาดว่าจะนำร่องที่จ.ภูเก็ตก่อน เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  โดยให้นักท่องเที่ยวนำเหรียญที่ถือครองนำมาลงทะเบียนและ KYC ในประเทศไทย จากนั้นเมื่อต้องการซื้อของในประเทศก็สามารถนำเหรียญดังกล่าวมาใช้ได้ ผ่านระบบแลกเปลี่ยน (Exchange House) โดยผู้รับเงินก็จะได้เป็นสกุลเงินบาท

“การเปิดแซนบอกซ์แลกเปลี่ยนด้วยคริปโท จะเป็นการสร้างกำลังซื้อจากต่างประเทศ ดิจิทัลโนแมต ผู้ลี้ภัยสงครามที่ต้องการซื้อบ้านในไทยก็สามารถทำได้คาดว่าจะมีโอกาสได้เห็นภายในปีนี้”

สำหรับจีดีพีปีนี้ขยายตัวได้เกินกว่า 3% สูงกว่าปี 2567 ที่เติบโตอยู่ที่ 2.7-.2.8% และคาดว่าไตรมาส4 ปี 2567 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เกิน 3% ต่อปี  โดยสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยได้เริ่มขึ้นแล้ว ตัวเลขการบริโภคภาคเอกชน 3 ไตรมาส โตกว่า 8%  การลงทุนภาคเอกชน บีโอไอ 9 เดือน สูงมากกว่ารอบ 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกก็เริ่มดีขึ้น

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวก็ยังเป็นจุดแข็งของไทย โดยตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จำมีจำนวนนักท่องเที่ยวราว 39.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่จำนวนนักท่องเที่ยว 35-36 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแรงหนุนที่จะผลักดันให้นักลงทุนต่างชาติใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถอีวี ธุรกิจ Wellness ธุรกิจการให้บริการคลาวด์ 

นอกจากนี้ภาครัฐก็มีแผนทบทวนการปฎิรูปภาษีทั้งระบบ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันภาคเอกชน และจะมีการเสนอให้มีการทำกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure fund) เพื่อระดม เงินทุนจากผู้ลงทุนทั่วไปทั้งรายย่อยและที่เป็นสถาบัน เพื่อลงทุน หรือพัฒนาในกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ สาธารณะในวงกว้างของประเทศที่นอกเหนือจากการใช้งบประมาณแผ่นดิน 

ส่วนแนวทางการลดาคาค่าไฟลดมาให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 4 บาทต่อหน่วย เช่นในอดีตจากในปัจจุบันค่าไฟอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย และรัฐบาลต้องมีการแก้ไขปัญหาราคาค่าไฟทุกๆ 4 เดือนนั้น นายพิชัยได้แสดงความเห็นด้วย แต่เรื่องนี้ขอเวลาศึกษาก่อนว่าจะสามารถปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าได้อย่างไร รวมทั้ง กระทรวงการคลังยังไม่ได้พิจารณาเรื่องลดภาษีอุดหนุนค่าไฟฟ้า

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img