‘ทักษิณ-พิธา’ จับมือชื่นมื่น บอกอยากกลับมาทำประโยชน์ให้ประเทศ ขณะ ‘ทักษิณ’ อวยพรคู่บ่าวสาว ต่างพรรคก็ร่วมงานกันได้ วันนี้บ้านเมืองต้องสามัคคี พร้อมยกคำสอนลูก-คนเพื่อไทย ให้แต่งเข้า อย่าแต่งออก ด้าน ‘พิธา’ มั่นใจมืออาชีพทั้งคู่ แยกแยะงานการเมืองได้ พร้อมทำงานเพื่อ ปชช.
วันที่ 10 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศภายในงาน นายพิธาได้เดินมาสวัสดีนายทักษิณ พูดคุยและจับมือกับนายทักษิณ ช่วงหนึ่งว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณบอกว่าหายไป 17 ปีก็เหงา อยากกลับมาช่วยประเทศไทย อยากกลับมาช่วยแก้ปัญหา อยากกลับมาทำประโยชน์ให้ประเทศ นายพิธาจึงบอกให้นายทักษิณรักษาสุขภาพด้วย
ส่วนจังหวะที่นายทักษิณเดินเข้าไปคุยกับน.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า มีการพูดคุยกันถึงเรื่องการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องระหว่างน.ส.พรรณิการ์กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวแซวน.ส.พรรณิการ์ว่าหน้าคล้ายน.ส.แพทองธาร
จากนั้น นายทักษิณ เป็นประธานในพิธีฉลองงานสมรสฝ่ายเจ้าบ่าว พร้อมกับคล้องมาลัยมงคลเจ้าบ่าว เจ้าสาว และกล่าวอวยพรว่า วันนี้ทุกคนมีความเห็นพ้องต้องกันว่าทั้งสองมีความเหมาะสมกันมาก ตนเห็นแล้วก็ปลื้มใจแทนพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย ซึ่งความรักที่มีต่อกัน เมื่อนักการเมืองทั้งสองคนแต่งงานกันก็กลายเป็นการเมือง และประเด็นการเมืองก็หนีไม่พ้นเพราะนักข่าวเฝ้าอยู่ ซึ่งตนขอเล่าให้ฟังนิดหน่อยก่อนจะอวยพร
”บ้านผมมีลูกสาวสองคน ผมตกลงกันว่าเมื่อแต่งงานกันแล้วให้แต่งเข้าบ้าน ไม่ให้แต่งออก ซึ่งผมก็พยายามบอกกับพรรคเพื่อไทยทุกคน แต่ครั้งนี้บังคับไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของเจ้าบ่าว วันนี้เราเห็นบ้านเมืองเริ่มส่งสัญญาณความสามัคคี แม้อยู่ต่างพรรคแต่ก็แต่งงานกันได้ เชื่อว่าพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาล เมื่ออุดมการณ์ไปกันได้ ก็ร่วมรัฐบาลได้เหมือนกัน หรือสส.ต่างพรรคแต่งงานกันได้ พรรคการเมืองต่างพรรคก็อาจจะร่วมงานกันได้ทางการเมือง ซึ่งวันนี้ผมคิดว่าบ้านเมืองต้องสามัคคี ไม่เช่นนั้นมันจะไปยาก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหลาย ทั้งเรื่องที่เปลี่ยนไป และเทคโนโลยีเปลี่ยนไป วันนี้ผมเต็มใจอย่างยิ่งที่มาร่วมงาน และได้เห็นสส.ต่างพรรคแต่งงานกัน ผมเห็นความรักและความเหมาะสมของทั้งคู่ที่มีให้กัน ทุกคนก็เห็นด้วยว่าเราอยากจะตั้งจิตอธิษฐานขอให้เขาได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและมีความรุ่งเรืองในชีวิตที่ใช้ร่วมกัน เชื่อว่าเป็นผลดีทั้งคู่“ นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า เมื่อแต่งงานกันก็จะส่งเสริมในสิ่งที่ดี จึงขอให้มีความสุข มีความสมหวัง ในสิ่งที่ปรารถนาทุกอย่าง และขอให้เชื่อฟังซึ่งกันและกัน บางทีผู้หญิงนำบ้างหรือผู้ชายนำบ้าง และวันนี้ขอให้มีความสุขมากๆ
นายพิธา กล่าวว่า วันนี้ได้รับเกียรติและความกดดันในการเป็นประธานฝ่ายเจ้าสาว ตนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพรรคเรามีหัวหน้าให้เลือกใช้ตั้ง 4 คน แต่เอาหัวหน้าคนที่ยังโสดอยู่ เพราะตอนที่หาเสียงทั้งทีมลำปางก็บอกว่า ให้ตนมาเป็นเขยลำปางได้ แต่ตอนนี้ลูกพรรคแซงไปหมดแล้ว วันนี้เป็นประธานฝ่ายเจ้าสาว และหัวหน้าที่ยังโสดอยู่ วันที่ 11 ธันวาคมไปลำพูนก็ยังลำพังอยู่ดี ตนเกือบไปแย่งดอกไม้กับเขาด้วย
นายพิธา กล่าวต่อว่า ถ้าเป็นเรื่องงานมงคลสมรสจะมีคำที่นักการเมืองพูดกันไว้ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่สำคัญที่สุดของชีวิตนักการเมืองคือ คนที่เป็นผู้นำครอบครัว ถ้าครอบครัวสนับสนุนซึ่งกันและกัน ตนเชื่อว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะทำงานเป็นผู้แทนได้ดีมากขึ้น และสามารถตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนชาวลำปางได้เป็นอย่างดี
นายพิธา กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าทั้งคู่จะมีความเป็นมืออาชีพที่จะสามารถแยกแยะได้ ส่วนเรื่องหน้าที่การงานที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนหลายหมื่นคะแนน ทั้งคู่รวมกันคะแนนเกือบแสน เป็นเรื่องความมืออาชีพ ในการทำงานการเมือง ส่วนเรื่องครอบครัวก็เป็นเรื่องของครอบครัว เขาคงสามารถแยกแยะได้ระหว่างความไว้วางใจของกันและกัน หรือเป็นความไว้วางใจของพี่น้องประชาชนที่ไม่อาจจะเพิกเฉย
“เขาทั้งสองคนน่าจะมีความเข้าใจซึ่งกันและกันว่า การเป็น สส.ต้องเสียสละมากขนาดไหน ทั้งเรื่องเวลาและทรัพยากร เมื่อเขาเข้าใจซึ่งกันและกันก็จะเป็น ครม.ครอบครัว เป็น ครม.ที่ทำงานแม้จะต่างพรรค คนละเขตกันก็ทำงานให้กับพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวอีกว่า มุมหนึ่งนอกจากการเป็นครอบครัวคือ การเป็นพ่อแม่ ตนได้เห็นน.ส.รภัสสรณ์ เมื่อครั้งไปพระธาตุลำปาง เป็นช่วงที่มีพ่อแก่แม่เฒ่าตามไปให้กำลังใจเยอะ ตนเห็นความอ่อนหวานและความอดทน การเข้าถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ดูแลผู้สูงอายุ รดน้ำดำหัว ครอบครัวไหนที่ได้เขามาเป็นสะใภ้ มั่นใจว่าจะเป็นครอบครัวที่มีแต่ความอบอุ่น และอีกมุมที่หลายท่านอาจไม่เคยเห็น คือช่วงที่ตนไป จ.ลำปางได้เอาลูกสาวไปด้วย ได้เห็นมุมของ น.ส.รภัสสรณ์กับเด็ก หากต้องการมีตัวเล็กก็มั่นใจว่า น.ส.รภัสสรณ์จะเป็นแม่ที่ดี สามารถทำหน้าที่เป็นภรรยา เป็นคุณแม่ และรักษามาตรฐานการทำงานเพื่อประชาชนได้เป็นอย่างดี
ต่อมา นายพิธา เปิดเผยถึงการพูดคุยกับนายทักษิณ ภายในงานว่า เป็นการแลกเปลี่ยนถามสารทุกข์สุขดิบกันเล็กน้อย ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่า นายทักษิณพูดบนเวทีเหมือนว่านายทักษิณพร้อมที่จะทำงานการเมืองกับพรรคปชน. นายพิธา กล่าวว่า ต้องไปถามพรรค ปชน. เพราะตนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองแล้ว แต่หากจะให้ตนตอบแทนพรรคปชน. และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ปชน. ก็คงยึดหลักการ