‘นายกฯ พี่อิ๊งค์’ ตอบคำถามเด็กๆ บอกแรงบันดาลใจ คือพ่อเคยเป็นนายกฯ สานต่อนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ลั่น ภูมิใจหากไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแต่นโยบายยังอยู่กับประชาชน โอดทำงานไม่ยาก พ้อ นายกฯ หญิงถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว ถูกติเรื่องวันหยุด
วันที่ 11 ม.ค.68 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับเยาวชน “น้องถามพี่ตอบ“ จากเด็กๆ ที่มาร่วมกิจกรรมที่ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงมีการตอบคำถามผ่านระบบซูมจากตัวแทนเด็กเด็กทั่วประเทศ
นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ตอบคำถามหลังเข้ามารับตำแหน่งว่าเหนื่อยหรือไม่ ว่า ตนเชื่อว่าทุกอาชีพทุกตำแหน่งเหนื่อยคนละแบบ เป็นนายกรัฐมนตรีก็เหนื่อย แต่ก็เหนื่อยปกติที่คนอื่นเขาเหนื่อยกัน อาจจะมีวันหยุดน้อย เพราะหากเราหยุด ก็อาจจะโดนว่านิดนึง ไม่ให้หยุด เหมือนกัน การเป็นนายกฯ หยุดอาจติเล็กน้อย แต่จริงๆแล้วไม่เหนื่อย เพราะมีกำลังใจที่ดีมาก เวลาผลงานที่ออกไปเราทำอะไรด้วยความตั้งใจเพราะตั้งใจทำ ได้รับประโยชน์จากตรงนั้นตรงนี้ ก็อิ่มใจฟู ซึ่งตนจะทำเรื่องของทุนการศึกษา หากใครมีโอกาสในการศึกษาเพิ่มขึ้นจากรัฐบาลนี้ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ตนหายเหนื่อย
ส่วนนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดยากหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ทุกอายุมีความสามารถ การเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุด ก็สร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทย ซึ่งตนคิดว่าด้วยเนื้องานของการทำงานไม่ได้ต่างจากผู้ชาย ตนคิดว่าคนที่มีความตั้งใจสามารถทำได้อย่างแน่นอน แต่ก็อาจจะมีในเรื่องการบูลลี่ในเรื่องของความเป็นผู้หญิง ซึ่งในสังคมเปิดกว้างขึ้นโลกเปิดกว้างขึ้น มีการพัฒนาตรงนี้มากขึ้น คิดว่าสิ่งเหล่านี้(บูลลี่) ก็จะน้อยลง ตนเคยอ่านหนังสือ เขาบอกว่านักการเมืองหญิงทั่วโลก จะถูกบูลลี่ในเรื่องต่างๆ บูลลี่คืออะไร เป็นผู้หญิงก็จะถูกล้อ ทำไมใส่ชุดนั้นชุดนี้ เป็นผู้ชายใส่ชุดเดียว สิ่งที่ยากก็คือตรงนี้ แล้วถามว่าจะทำอย่างไรกับการโดนบูลลี่ เราก็ต้องรู้คุณค่าจากตัวเราก่อน ว่าเรามาทำตรงนี้เพื่ออะไร มีความตั้งใจอย่างไร เรามีดีอะไรบ้าง เราอยากทำเรื่องดีๆ ให้ใครบ้าง นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจและมีสติให้มาก คำว่าสติ เขาจะสอนมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ให้มีสติ เราจะฟังกันผ่านๆ เมื่อโตขึ้น เมื่อชีวิตมีเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น เราก็จะคิดว่าตรงนี้ก็จะสำคัญขึ้นเรื่อยๆ บอกไว้ก่อน เมื่อโตขึ้นไปก็จะรู้ว่าคำนี้นั้นสำคัญมากๆ
ส่วนแรงบันดาลใจในการทำงาน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คุณพ่อของตนเคยเป็นนายกรัฐมนตรี เคยทำนโยบายไว้ให้ประเทศชาติจนถึงทุกวันนี้ คือนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนขั้วเปลี่ยนฝั่ง นโยบายนี้ยังอยู่ ตนรู้สึกว่าไม่ต้องพูดถึงชื่อพ่อก็ได้ถึงนโยบายนี้ แต่คนยังได้ประโยชน์จากนโยบายนี้อยู่ จนรู้สึกว่าตนอยากทำนโยบาย ไม่ว่าตัวของตนจะไปอยู่ที่ใดแต่ประโยชน์นี้ยังคงอยู่กับประชาชน ถ้าทำได้ตนจะมีความภูมิใจมาก ว่าเราไม่ต้องป่าวประกาศ แต่เรื่องดีๆ เหล่านี้ยังตกอยู่ที่ประชาชน ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัย นอกจากนี้แรงบันดาลใจของตนคือเมื่อประเทศชาติวุ่นวาย แล้วเรามีโอกาสมาทำเรื่องต่างๆ ให้เปลี่ยนแปลงไปได้ นั่นคือแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ประชาชนได้ค่าเยียวยา ถนนได้ถูกซ่อม ชีวิตได้ถูกดูแล นั่นคือแรงบันดาลใจที่สำคัญ และสิ่งสำคัญคือแรงบันดาลใจที่บ้านคือลูก ลูกคือความหวังคืออนาคต โตขึ้นมาอย่างสวยงาม คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจเรามีสิ่งดีๆ ในตัวเราเยอะ ตนจึงรู้สึกว่าลูกคือแรงบันดาลใจถ้าอย่างน้อยๆ ในช่วงที่ตนเป็นนายกฯ ได้สร้างอะไรดีๆ ให้กับประเทศ นั่นก็เป็นเหมือนการเตรียมพร้อมอนาคตส่วนหนึ่งให้กับลูก
ส่วนจะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้อย่างไรนั้นนายกรัฐมนตรีระบุว่า นั่นคือหน้าที่ของรัฐบาลนั่นคือความตั้งใจของครมและของทุกคนไม่ว่าจะเป็นสส.ในพื้นที่ผ่อนเดือดร้อนของประชาชนทำให้เราก้าวเข้ามาในการเมือง เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่เราพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา ก่อนถามเด็กๆว่า ตอนนี้เด็กๆมีปัญหาอะไรบ้าง ทำให้เด็กอธิบายว่าเป็นปัญหาน้ำท่วมซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าเมื่อเกิดน้ำท่วมรัฐบาลจะต้องดูแลเป็นหลัก ซึ่งตนอยากให้จะมีการแก้ไขปัญหาในระยะยาวหาพื้นที่ใดสามารถมีสิ่งก่อสร้างใดๆหรือแก้ไขปัญหาด้านเทคโนโลยีทางการได้บ้างให้หายไปได้หรือลดน้อยลงไปได้ ก็จะพยายามมุ่งไปสู่ทางนั้นแต่อะไรที่ต้องรอการสร้างก็ขอให้เราสักหน่อยรับผ้าเยียวยาไปก่อนหรือดูแลเรื่องถูกยังชีพซึ่งพื้นที่ไหนที่มีน้ำท่วมตนเข้าใจว่าอยากให้แก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซากอีกเพราะเกิดความวุ่นวาย
นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า รู้หรือไม่ว่าทุกวันนี้ที่เราเป็นเด็กตื่นขึ้นมาสดใส แต่งตัวออกไปทานข้าวไปโรงเรียน ตั้งใจเรียน มีเพื่อน นั่นคือได้ทำเพื่อประเทศแล้ว ก่อนจะถามกลับว่ารู้ไหมว่าทำไม เพราะการหาความรู้ไว้ก็จะเป็นคนที่มีคุณภาพขึ้นเรื่อยๆมีความรู้มีแนวทางที่อีกหน่อยเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็จะสามารถช่วยประเทศได้ในด้านต่างๆเราไม่ยุ่งกับยาเสพติดนั่นก็ทำให้ประเทศชาติมีคนที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้นไม่ต้องมาแก้ไขปัญหาตำรวจไม่ต้องมาเสียเวลาจับเรื่องยาเสพติดเพราะทุกคนไม่มีใครยุ่งกับยาเสพติดแค่นี้ก็ช่วยประเทศชาติได้เยอะมากแล้ว เรื่องเด็กๆพวกนี้ที่กำลังตั้งใจเรียนกันอยู่เรียนทำไมวิชานี้วิชานั้นเรียนกันทำไมคิดถึงไม่ มันได้ใช้เพราะจะทำให้มีประสบการณ์ที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นและสามารถหาความรู้ได้ทุกโอกาส เพราะฉะนั้นขอให้ตั้งใจเรียน
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังขอให้เด็กๆใช้วัยเด็กอย่างเต็มที่ ตั้งใจเรียนเล่นกับเพื่อนให้เต็มที่เพราะเพื่อนที่เราเล่นกันอยู่ทุกวันนี้คือเป็นการปรับตัวอย่างหนึ่ง พยายามเปิดใจให้กว้างมีน้ำใจกับเพื่อนๆรอบข้าง จริงๆแล้วสังคมเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆจึงอยากให้ทุกคนพร้อมปรับตัวและสร้างโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้จากทุกคน เพราะความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ไม่มีใครเอาไปจากเราได้
นายกรัฐมนตรี ยังตอบคำถามถึงความเห็นในครอบครัวที่ไม่ตรงกัน ว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เกิดขึ้นบ้านใดบ้านหนึ่งแต่หลายๆบ้านความต้องการของผู้ปกครองและเด็กไม่ตรงกันซึ่งอย่างแรกเราควรจะพูดคุยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนสามารถแนะนำได้ก็จะพูดว่าเราควรจะฟังจากน้องๆก่อนว่าเขานั้นคิดอย่างไรจึงได้ตัดสินใจออกมาเป็นแบบนี้ประสบการณ์ของน้องๆคืออะไรเพราะจริงๆแล้วแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน สำคัญคือที่เด็กๆและน้องๆรับฟังความคิดเห็นของพ่อแม่ก็จะเป็นประโยชน์เนื่องจากผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มาก่อนบางทีเขาจะมองโลกในมุมที่กว้างกว่าเรา ซึ่งวันหนึ่งเราก็จะมองได้กว้างอย่างเขาแต่อาจจะต้องใช้เวลาสักนิดเพราะฉะนั้นต้องกล้าที่จะพูดคุยกัน อย่าคิดว่าพ่อแม่จะไม่รับฟัง การพูดคุยกันในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญตนคิดว่าอย่างไรพ่อกับแม่รักและหวังดีกับเราเสมอเพราะฉะนั้นการเปิดทางผ่านการพูดคุยจะทำให้การแก้ไขปัญหาได้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงหการทำเมนูอาหาร สมัยที่ตนมีลูกสาวคนแรก ซึ่งตรงกับช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ต้องอยู่บ้านทำอาหารเอง 3 มื้อ ลูกยังพูดไม่ได้ ยังไม่มีคอมเม้นว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่ก็พอทำได้อยู่ ส่วนเมนูโปรดที่ทานกับลูกจะทำอะไรที่เด็กๆชอบทานและเข้าใจว่าคืออะไร ที่บ้านก็จะปลูกผักปลอดสารพิษ ให้น้องๆได้เก็บผักบุ้งมาทอดกรอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ง่าย ให้เด็กๆได้ทดลองทำ ซึ่ง 3-4 ขวบนั้นสามารถทำได้ ซึ่งจริงๆแล้วเด็กนั้นอย่าไปห้าม ขอให้เติม
ส่วนความท้าทายที่เด็กและผู้ปกครองเจอทุกวันนี้ นายกรัฐมนตรี มองว่า สำหรับตนที่เป็นแม่ตนมองว่าโลกภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป คือความท้าทายที่สุด ตนคิดว่าพ่อแม่ที่มีความสุขคือพ่อแม่ที่ดี เพราะพ่อแม่เองไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่องเขาก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่มีประสบการณ์มากกว่า แต่ทุกเรื่องไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมดบางทีเด็กตัวเล็กๆ รอพ่อแม่ต้องแก้ปัญหาได้คือโลกทั้งใบของเรา แต่เขามีมุมมองหรือแง่คิดเป็นคนที่มีความสุขและให้กำลังใจทำให้สามารถผ่านเรื่องทุกอย่างไปด้วยกันได้เพราะความท้าทายมีเยอะมาก หากที่บ้านมีความสุขมีความเข้าใจรับฟังกัน จะเป็นพื้นฐานจิตใจที่เข้มแข็งให้ไปเจอสิ่งที่ท้าทายได้ เพราะฉะนั้นความสุขของพ่อแม่สำคัญที่สุด