“รุ่ง” ประเมินเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ-นโยบายกีดกันทางการค้า-การกีดกันผู้อพยพของทรัมป์ เปิดสถิติ 1-10 ม.ค.เงินบาทนำโด่งอ่อนค่าสุดในภูมิภาค
น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเดือนธ.ค.สหรัฐฯ ซึ่งหากสูงกว่าคาด จะทำให้ดอลลาร์แข็งค่า (บาทอ่อน) ต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนจะมองว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งเท่านั้นในปีนี้
นอกจากนี้ บอนด์ยิลด์สหรัฐฯและราคาทองคำเป็นปัจจัยชี้นำค่าเงินบาทเช่นกัน บรรยากาศการซื้อขายจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง อนึ่งในภาพใหญ่ ตลาดยังกังวลกับระดับความรุนแรงของหลายนโยบายของทรัมป์ นำโดย มาตรการกีดกันทางการค้า และการกีดกันผู้อพยพ ซึ่งนักลงทุนตีความว่าจะทำให้ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นและเฟดอาจลังเลในการตัดสินใจลดดอกเบี้ย
สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคช่วง 1 ม.ค.-10 ม.ค. พบว่า สกุลเงินส่วนใหญ่อ่อนค่า นำโดย บาท-ไทย 1.49%, เปโซ-ฟิลิปปินส์ 0.88%, ริงกิต-มาเลเซีย 0.62%, ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.56%, รูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.51%, หยวน-จีน 0.46%, รูปี-อินเดีย แข็งค่า 0.37%, ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.26% ยกเว้น ดอง-เวียดนามแข็งค่า 0.43%, วอน-เกาหลีใต้แข็งค่า 0.43%
โดยตั้งแต่เปิดปีใหม่มาเงินบาทอ่อนค่ามากสุดในกลุ่มสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย จากกระแสเงินทุนไหลออก ขณะบอนด์ยิลด์สหรัฐฯพุ่งขึ้น โดยตลาดมองว่าเฟดจะชะลอการลดดอกเบี้ยนับจากนี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทยสุทธิ 1.1 พันล้านบาท และขายพันธบัตรสุทธิ 9.7 พันล้านบาท